ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่สะสมมาเป็นเวลานาน ไม่เพียงแต่ทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่พฤติกรรมการใช้อำนาจรัฐในการแสวงหาประโยชน์อันมิชอบต่างๆ ยังส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม และการบริหารราชการ ซึ่งอาจนำไปสู่ความล้มเหลวในการพัฒนาประเทศในที่สุด รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น และกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ในโอกาสนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม ได้เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โทร.1206 ภายใต้การสร้างเครือข่ายข้าราชการไทยใจสีขาว พร้อมเปิดตัวเครือข่าย "เยาวชนต้านทุจริต" ให้เข้ามาทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
ซึ่งโครงการนี้ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ ตรวจสอบ หรือร่วมในกระบวนการใดๆ เพื่อให้กลไกการดำเนินการมีความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใส น่าเชื่อถือ และตระหนักถึงความสำคัญของหน่วยงานที่จะดูแลประชาชน ส่งเสริมจิตสำนึกประชาชน ไม่ให้สมยอมและเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการทุจริตกับเจ้าหน้าที่ พร้อมแจ้งเบาะแสเมื่อพบเห็นการกระทำทุจริต โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมประกาศยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นตามแผนดำเนินการเชิงรุกของรัฐบาล และมอบนโยบายแก่ส่วนราชการพัฒนาองค์การ เพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้กลุ่มตัวแทนน้องๆ เยาวชนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมาร่วมแสดงความคิดเห็นดังนี้
น.ส.อารดา อารยวุฒิ หรือน้องดาร์ลิ่ง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "หนูเองในฐานะเยาวชนไทย อยากเห็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตั้งใจกันทำงาน ซื่อสัตย์ และช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองค่ะ เพราะทุกวันนี้สังคมเรานั้นดูวุ่นวาย สับสน ผู้คนล้วนแต่เห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ยิ้มและให้อภัยกันน้อยลง ถ้ามีตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่คอยช่วยกันทำงาน สอดส่องดูแล คอยแจ้งเบาะแส น่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างสะดวกสบาย และปราบปรามการทุจริตได้มากขึ้นด้วยค่ะ"
นายวิสุทธิ์ อ่อนปรางค์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ให้ความเห็นแก่โครงการว่า "ผมเองได้รับทราบจากทางข่าวสารของทางมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับโครงการนี้ครับ และเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์ เป็นประเด็นร้อนที่ทุกคนควรร่วมกันแก้ไขโดยเร็วที่สุด และเมื่อรัฐบาลเปิดโอกาสให้เยาวชนอย่างเรา มีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตา สอดส่อง และดูแลไม่ให้เกิดการทุจริตด้วยแล้ว ผมจึงไม่ลังเลที่จะสมัครเข้าโครงการ โดยขอเป็นส่วนหนึ่งในการกำจัดพวกคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากแผ่นดินเราครับ"
น.ส.พัชมน ฮั่วจั่น หรือน้องขนุน อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด วิทยาลัยราชพฤกษ์ กล่าวเสริมว่า "หนูเองสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ร่วมกับเพื่อนๆ ค่ะ เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เยาวชนอย่างเราเข้าไปมีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลความประพฤติของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ก็มักเกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนทั้งนั้น หนูจึงคิดว่าถ้าหนูและเพื่อนๆ คอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ คอยแจ้งเบาะแสให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โทร.1206 ปัญหาพวกนี้ก็จะเบาบาง และหมดไปได้ในที่สุดค่ะ"
น.ส.ศิริพร กัลปหา หรือน้องฟิวส์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด กล่าวปิดท้ายว่า "หนูเองอยากเห็นเมืองไทยปลอดจากการโกงกิน ปลอดจากการคอร์รัปชั่นค่ะ จึงเข้าสมัครร่วมโครงการนี้ เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหา จากกำลังเล็กๆ ของพวกเรา อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เพราะเยาวชนอย่างเราก็สามารถช่วยกันเป็นโทรโข่งคอยแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งน่าจะช่วยให้ภาครัฐทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ"
น้องๆ เยาวชนไทยที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเครือข่ายเยาวชนต้านทุจริต ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.yac.in.th เพื่อช่วยกันตรวจสอบ สอดส่องดูแล และแจ้งเบาะแส หากพบข้าราชการที่ประพฤติมิชอบกันได้เลย…
www.banmuang.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น