วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โลกเสรี พลังสังคมวูบ ไทยเละ

อุทกภัยในปลายปี 2554 ได้นำความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ประเทศไทย รวมทั้ง ภัยเศรษฐกิจซึ่งได้เข้ามาซ้ำเติมให้แก่ประชาชนอีกครั้ง ทำให้หลายๆ คนหวั่นวิตกกับ ภัยที่จะเกิดจากความเหตุทางด้านการเมือง ที่กำลังจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในไม่ช้านี้
เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของทุกข์หลัก ๆ หนัก ๆ ในไทย
ที่ขวางการขับเคลื่อนวิถีไทยไปสู่คืนวันที่ดีกว่าเดิม!!!

จัดงานสัมมนา การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงที่ผ่านมา โดยการร่วมกันของหลายส่วน อาทิ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.), สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นแกน เพื่อพิจารณาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ในงานนี้ก็มีการแสดงมุมมองแง่คิดที่น่าสนใจ


ในช่วงหนึ่งจากการบรรยายโดย ศ.ดร.อภิชัย พันธเสน ผู้ประสานงานชุดโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ในหัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง : ความสำเร็จ อุปสรรคและความคาดหวังในทศวรรษหน้า” ได้กล่าวว่า ไม่ควรขับเลื่อนในระดับจุลภาคซึ่งเป็นระดับที่มีขนาดเล็ก จะทำให้ไม่มีประสิทธิภาพที่ดี หรือเกิดความแตกแยก ในการทำงาน รวมทั้งการพัฒนาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงควรจะต้องปรับแผนการพิจารณานโยบาย


พร้อม ๆ กับเสนอแนวทาง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงระดับนโยบาย โดยเน้นประเด็นการจัดทำเครื่องมือในการทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องมือที่ได้จากการบริหารธุรกิจแบบตะวันตก มาเป็นเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเมืองระดับชาติ รวมถึงจัดทำแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียงโดยศึกษาอุปสรรค ข้อจำกัดต่าง ๆ ตลอดจนสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ

’ก้าวต่อไปของไทยในทศวรรษหน้า ควรเป็นการก้าวไปสู่สังคมที่มีความเอื้ออาทรต่อกัน เป็นสังคมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี เป็นสังคมที่ร่มเย็นเป็นสุขหรือสังคมประโยชน์สุข พร้อมกับแก้ไขอุปสรรคที่สำคัญ ได้แก่ ธุรกิจการเมืองในระดับชาติ การเมืองส่วนท้องถิ่น ภาคราชการ และสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้มีจุดเริ่มต้นในการแก้ไขส่วนหนึ่งแล้ว เป็นอีกส่วนจากการระบุของ ศ.ดร.อภิชัย

แนวทางที่ว่านี้อาจมีเสียงวิพากษ์ว่า ทำได้ยาก แต่ถึงกระนั้นก็มิใช่ว่าจะทำไม่ได้ื


ทั้งนี้ ในการปาฐกถานำ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงในทศวรรษหน้า : องค์ความรู้ อุปสรรค และยุทธวิธี” ในงานเดียวกัน โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานสภาปฏิรูปประเทศไทย นี่ยิ่งมีประเด็นน่าคิด เช่น...การพัฒนาแบบแยกส่วนโดยไม่บูรณาการร่วมกันนำไปสู่การ “เสียสมดุล” ระบบเศรษฐกิจซึ่งความคิดเบื้องหลังคือ “โลภะ” ทำให้เกิด ’ความโลภเสรี“ นำสู่ ’โทสะ“ ’ความรุนแรง“ เมื่อเกิดโลภะ โทสะ และโมหะ ซึ่งเรียกว่า “อกุศลมูล” ก็ ’ทำให้เกิดวิกฤติ“ ซึ่งต้องแก้ไขที่ระบบคิด ด้วยความ “ไม่โลภ” ซึ่ง “เป็นรากฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เศรษฐกิจพอเพียงจึงมิใช่เรื่องล้าสมัย แต่เป็นเรื่อง “อนาคตของมนุษยชาติ”

ประธานสภาปฏิรูปประเทศไทย ระบุไว้อีกว่า...สังคมปัจจุบันมี 3 มวลใหญ่ คือ...อำนาจรัฐ, อำนาจทุน, อำนาจสังคม ซึ่ง วิกฤติในปัจจุบันเกิดเพราะ ’มวลอำนาจทางสังคมอ่อนแอ“ จนไม่อาจแก้ปัญหาในประเทศได้ จึงต้องสร้างมวลสังคมให้ใหญ่ขึ้น เป็น “สังคมานุภาพ” ที่มีการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำในทุกพื้นที่ทุกองค์กรทุกเรื่อง เพื่อให้มีพื้นที่ทางสังคมและมีพื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวาง ให้ชุมชนท้องถิ่นมีการจัดการตัวเองโดยไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐและทุน เพื่อให้ “ได้ดุล” และทำงานเชื่อมกัน เกิดเป็นสังคมานุภาพที่เสมอกัน

และจุดยุทธศาสตร์สำคัญก็คือ “ตำบล” ซึ่งเป็นจุดบรรจบของประชาชนและท้องถิ่น หากมีการจัดการตนเองด้านเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจน ให้ธุรกิจขับเคลื่อนเข้ามาอย่างเด่นชัด มีโครงการ 1 บริษัท ต่อ 1 ตำบล และ 1 คณะวิชา ต่อ 1 ตำบล เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการ และวิชาการ เข้าไปทำงานร่วมกับท้องถิ่น โดยอาศัยการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ ก็จะสามารถ ตอกเสาเข็มให้ประเทศไทยมั่นคงมากขึ้น ได้

’ถ้ามีแต่พื้นที่ทางการเมืองที่แบ่งข้างแบ่งขั้ว ไม่ฟังความเห็นกันและกันแล้ว พื้นที่ทางปัญญาก็จะไม่เกิดขึ้น และบ้านเมืองก็จะอับจนทางปัญญาอย่างแน่นอน“...ประธานสภาปฏิรูปประเทศไทย ทิ้งท้าย

www.dailynews.co.th

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม