วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ชิเซโด้ เฉลิงฉลองครั้งใหญ่ครบรอบ 140 ปี ชิเซโด้ ประเทศญี่ปุ่นและครบรอบ 40 ปี ในประเทศไทย...

ชิเซโด้ เฉลิงฉลองครั้งใหญ่ครบรอบ 140 ปี ชิเซโด้ ประเทศญี่ปุ่นและครบรอบ 40 ปี ในประเทศไทย ประกาศชัดจุดยืนนวัตกรรมเครื่องสำอางค์เพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะ พร้อมรุกหนักกิจกรรมการตลาด และเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง หวังโกยยอดสาวไทยเพิ่ม

นายมาซาโตะ ยามาดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปี ชิเซโด้ ประเทศญี่ปุ่นและครบรอบ 40 ปี ในประเทศไทย บริษัทได้ประกาศนโยบาย "Asian Breakthrough Strategy" หรือให้ความสำคัญกับการทำตลาดในแถบเอเชียให้มากที่สุด เพราะ ชิเซโด้ เป็นบริษัทเอเชียที่รู้ลึกรู้จริงถึงสภาพผิวของคนเอเชีย ประกอบกับประเทศในเอเชียเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน ดังนั้นเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี ชิเซโด้ ในประเทศไทย จึงได้ประกาศแผนขึ้นแท่นผู้นำในกลุ่มอาเซียน หรือ "No. 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา

"ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) ต้องก้าวเป็นผู้นำในกลุ่มบริษัท ชิเซโด้ ในอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 ทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ จึงได้เน้นการทำตลาดเชิงรุก ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพรสทีจ และแมสทีจ โดยชูจุดขาย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ สินค้าที่มีคุณค่าและมีคุณภาพสูง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีระดับสูง และมีการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างดีเยี่ยม หรือการให้บริการจากใจที่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โอโมเทนาชิ"

ซึ่งหลังจากประกาศแผนเชิงรุกดังกล่าว จนถึงในครึ่งปีแรกของปี 2555 พบว่า ยอดขายของ ชิเซโด้ ประเทศไทย มีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเหตุผลสำคัญมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Shiseido White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+ ที่เริ่มวางจำหน่ายเมื่อต้นปี และในครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Shiseido Revital, Shiseido Bio Performance และ Shiseido Make Up

สำหรับกลุ่ม แมสทีจ เริ่มทำตลาดในปี พ.ศ.2551 ตามนโยบายของบริษัทแม่ที่ต้องการรุกตลาดเอเชีย โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแมสทีจ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างมากในประเทศแถบเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยได้นำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มแมสทีจ จากประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ ซีเอ , มาจอลิกา มาจอร์กา, อควาเลเบล และซึบากิ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์กลุ่มแมสทีจ คือโดดเด่นในด้านคุณภาพสินค้า เทคโนโลยีการผลิต การบริการ และภาพลักษณ์ที่บวกกับราคาที่เข้าถึงง่าย และการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ควบคู่กับการทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุกตามจุดขาย โดยผลิตภัณฑ์ที่สร้างยอดขายสูงสุด ได้แก่ Za Total Hydration Amino Mineral Refreshing Gel ปัจจุบันได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น



www.banmuang.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม