ขนาดเป็นช่วงก่อนวัน “วิสาขบูชา” ครั้งสำคัญ ในปีสำคัญ “พุทธชยันตี” ครบ 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์ศาสดาแห่ง “ศาสนาพุทธ” ศาสนาที่ในประเทศไทยประชาชนส่วนใหญ่ในแทบจะทุกแวดวง รวมถึงการเมือง ’นักการเมือง“ บันทึกในประวัติว่า “นับถือ” ในช่วงนั้นการเมืองไทยก็ยังเกิดเหตุวุ่น ๆ แรง ๆ น่าหวั่นใจ
เลยวันวิสาขบูชามาแล้วก็น่าคิดว่าจะเป็นเช่นไร??
กระแสธรรมก่อนหน้านี้จะถูกทิ้งผ่านเลยหรือไม่??
ทั้งนี้ สถานการณ์การเมืองไทยที่วุ่นวายสลับกับความสูญเสียมาเนิ่นนานเกินครึ่งทศวรรษก็ยังไม่จบไม่สิ้นเสียทีนั้น นอกจาก “กฎหมายยุติธรรมอย่างเข้มแข็ง” “ความยุติธรรมอย่างเสมอภาค” น่าจะเป็นความหวังหนึ่งในการหยุดหรืออย่างน้อยก็ลดวิกฤติไฟการเมืองในไทยลงได้แล้ว...กับ ’หลักธรรม“ นี่ก็ ’ยิ่งน่าพิจารณา“
“ความอดทน...ทำคนให้เป็นคนดี อดทนถึงที่...ได้ดีทุกคน” …นี่เป็นคติธรรมที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือท่าน ว.วชิรเมธี พระสงฆ์นักคิด-นักเขียน-นักเทศน์ สถาบันวิมุตตยาลัย ให้กับนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งใคร ฝ่ายใด จะคิดเห็นหรือจะวิพากษ์กันอย่างไร นั่นก็ย่อมสุดแท้แต่
แต่กับหนังสือ “อริยสัจ ทูเดย์” ซึ่งจัดพิมพ์ในโอกาสสมโภชพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรม ที่ท่าน ว.วชิรเมธี มอบให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ด้วย ในหนังสือเล่มนี้มี ’ความจริงอันสำคัญ“ ที่ ’ไม่แบ่งฝักฝ่าย“
ความจริงอันสำคัญที่ว่านี้คือ ’อริยสัจ 4“ หลักธรรมสำคัญที่พระพุทธเจ้าศาสดาแห่งศาสนาพุทธตรัสรู้ในคืนวันเพ็ญ เดือนวิสาขะ ก่อนจะมี พ.ศ. หรือพุทธศักราช 45 ปี ซึ่งเวลาผ่านมา 2,600 ปี ก็ยัง “จริงแท้”
ในหนังสือ “อริยสัจ ทูเดย์” ระบุไว้ว่า...“อริยสัจ” เป็นหลักธรรมระดับ “หัวใจของพระพุทธศาสนา” เพราะเป็นศูนย์กลางแห่งธรรมทั้งปวงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อริยสัจที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มี 4 ประการ 4 ข้อ เรียกรวมว่า “อริยสัจ 4” ซึ่งถือว่า ’เป็นหลักธรรมสำหรับดับทุกข์หรือแก้ปัญหาชีวิตโดยตรง“ โดยอริยสัจ 4 นี้ ได้แก่...
1. ทุกข์ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ 2. สมุทัย สาเหตุของทุกข์ คือตัณหา หรือความอยาก 3. นิโรธ ภาวะที่ปราศจากปัญหา หรือนิพพาน 4. มรรค วิธีดับทุกข์ หรือวิธีแก้ปัญหาอริยสัจประสาชาวบ้านเป็นอย่างไร? ก็มีการอุปมาไว้ให้เห็นภาพชัด ๆ ในหนังสือเล่มนี้ คือ...1. ทุกข์ เปรียบเหมือนของหนัก2. สมุทัย เปรียบเหมือนการแบกของหนักเอาไว้ 3. นิโรธ เปรียบเหมือนการวางของหนักลงได้ 4. มรรค เปรียบเหมือนอุบายวิธีที่จะวางของหนัก และอุปมาอีกแบบคือ...1. ทุกข์ เปรียบเหมือนโรค 2. สมุทัย เปรียบเหมือนสาเหตุของโรค 3. นิโรธ เปรียบเหมือนภาวะหายโรค4. มรรค เปรียบเหมือนยารักษาโรค
มาถึงตรงนี้หากจะถามว่า...แล้ว “ของหนัก” หรือ “โรค” หรือ “ทุกข์” นั้น มีอะไรบ้าง? บางส่วนในหนังสือ “อริยสัจ ทูเดย์” ระบุไว้ว่า...ในหนังสือปฐมเทศนาท่านระบุว่า ความทุกข์มี 11 ประการ ดังนี้คือ...1. ความเกิด 2. ความแก่ 3. ความตาย 4. ความโศก 5. ความคร่ำครวญหวนไห้ 6. ความทุกข์กาย 7. ความทุกข์ใจ 8. ความคับแค้นใจ 9. ความประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่ชอบใจ 10. ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่ชอบใจ 11. ความปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้ในสิ่งนั้น (ผิดหวัง) นอกจากนี้ ยังมีอีกทุกข์ที่ถือเป็น “ทุกข์แท้ ๆ” ที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่า 11 ทุกข์ที่ว่ามา ที่กัดกินใจคน ที่ทำให้ไม่อาจหลุดพ้น คือ...ทุกข์จากความยึดติดถือมั่นในขันธ์ 5 คือในร่างกายและจิตใจ ว่าเป็นตัวฉัน ของฉัน ตัวกู ของกู
ทั้งนี้ ว่ากันถึงแวดวงการเมือง ’นักการเมือง“ กับ ’อริยสัจ 4“ กับข้อ 1 ทุกข์ ข้อ 2 สมุทัย-สาเหตุของทุกข์ ส่วนใหญ่มีกันอยู่แล้ว ซึ่งหลายปีมานี้หลายคนก็ทำให้ประเทศไทย-ประชาชนคนไทยโดยรวมทุกข์และมีปัญหาด้วย ซึ่งประเทศไทย-ประชาชนคนไทยโดยรวมจะมีข้อ 3 นิโรธ-ภาวะที่ปราศจากทุกข์หรือปัญหาได้ ก็ต้องไม่มีสถานการณ์ที่นักการเมืองเป็นตัวทุกข์-เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ และการจะเป็นเช่นนี้ได้ในยามนี้ ประชาชนคงมีข้อ 4 “มรรค” วิธีดับทุกข์ วิธีแก้ปัญหา ได้ไม่ง่าย ถ้านักการเมืองยังไม่มีข้อ 4 ในส่วนของนักการเมืองให้ดีก่อน
ข้อ 4 มรรค “มีองค์ 8” คือ...1. สัมมาทิฐิ 2. สัมมาสังกัปปะ3. สัมมาวาจา 4. สัมมากัมมันตะ 5. สัมมาอาชีวะ 6. สัมมาวายามะ7. สัมมาสติ 8. สัมมาสมาธิ ซึ่งแปลโดยมีคำว่า ’ชอบ“ ที่หมายถึง ’ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม“ ก็คือ...1. เห็นชอบ 2. คิดชอบ 3. พูดชอบ 4. กระทำชอบ 5. เลี้ยงชีวิตชอบ 6. เพียรชอบ 7. ระลึกชอบ
8. ตั้งจิตมั่นชอบ ซึ่งการที่ “ประเทศไทย-ประชาชนคนไทยโดยรวม คลายทุกข์คลายปัญหา” อย่างที่นักการเมืองทุกคนทุกฝ่ายพูดกันติดปากว่า “จะทำให้...” คงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก หากนักการเมืองทุกฝ่ายในสถานการณ์ทุกข์-สถานการณ์ปัญหา มี “8 ชอบ” ตาม “มรรค” ตาม “ข้อ 4 ของอริยสัจ 4” กันมาก ๆ
ณ วันนี้ แม้เลยวันวิสาขบูชาครั้งสำคัญ ในปีสำคัญ พุทธชยันตี ครบ 2,600 ปีแล้ว แต่กระแสธรรมที่มีออกมานับแต่อดีต จนถึงก่อนหน้านี้ ไม่น่าจะปล่อยให้ผ่านแล้วผ่านเลย น่าจะมีการฉุกคิด...และปฏิบัติบ้าง...
โดยเฉพาะกับ ’อริยสัจ“ ธรรมสำคัญยิ่งที่มีอยู่ 4 ข้อ
โดยเฉพาะกับ ’นักการเมือง“ ถ้า ’มีข้อ 4 ดีแน่!!!“.
www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น