วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“เอเพ็กซ์ กรุ๊ป” ทุ่ม 20 ล้านบาท เปิดตัว “BASIC HOUSE”

 เกาะกระแสเกาหลี Fever ไม่หยุด “เอเพ็กซ์ กรุ๊ป” ทุ่ม 20 ล้านบาท เปิดตัว แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากประเทศเกาหลี “BASIC HOUSE”  เจาะตลาดทุกเพศทุกวัย สามารถ Mix & Match ได้ง่าย ด้วยการออกแบบเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา การตัดเย็บประณีต เนื้อผ้ามีคุณภาพดี  พร้อมปูพรมเปิดช็อปในห้างดังและ Stand Alone Store แล้วกว่า 16 แห่ง ปีนี้เตรียมเปิดเพิ่มที่เมกาบางนา และขยายเพิ่มทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดอีก 10 แห่ง หวังปิดยอดขายปีนี้ 100 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นเจ้าตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นเทรนด์เกาหลีก่อนใคร

 นายอรรถสิทธิ์ มงคลรัตนชาติ กรรมการผู้จัดการ แผนกบริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เอเพ็กซ์ กรุ๊ป จำกัด  มีบริษัทในเครือหลายแห่ง ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปี ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายของเด็กเล่นพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ของเด็กเล่นที่มีลิขสิทธิ์ ทั้งผลิตสินค้าพลาสติกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ และถังสีและหลอดซิลิโคลน อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว ลูกกวาดและ Candy Toys รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เนื้อ เนย และอาหาร และเพื่อเป็นการขยายตลาดให้ครอบคลุมสินค้าอุปโภคและบริโภค บริษัทจึงนำเข้าเสื้อผ้าสไตล์เกาหลี แบรนด์ “BASIC HOUSE” เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเทรนด์เกาหลีที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้

จากกระแส K-POP ที่มาแรงไม่หยุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ Life Style ของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเทรนด์การแต่งกายที่มาแรง ประกอบกับ Apex Group เป็นผู้นำเข้าของเล่นรายใหญ่ของประเทศ มีการจัดการและบริหารสินค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งจัดจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ยังไม่มีบริษัทไหนนำเข้าเสื้อผ้าเกาหลีที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาในไทย เราจึงมีความสนใจที่จะนำเสื้อผ้าเกาหลีเข้ามาเป็นบริษัทแรก ซึ่ง BASIC HOUSE เป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของเกาหลีที่มีจำนวนสาขามากมาย และป้ายโฆษณาที่โดดเด่นสะดุดตาของ BASIC HOUSE โดยมีดาราชั้นแนวหน้าของเกาหลีอย่าง วอน บิน เป็น Presenter และเมื่อเล็งถึงรูปแบบและคุณภาพการใช้วัตถุดิบและกรรมวิธีในการผลิตของสินค้า จะเห็นว่าสินค้ามีคุณภาพดีและราคาเหมาะสมกับตลาดของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เราจึงได้เป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

นายอรรถสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ลักษณ์เด่นของสินค้า BASIC HOUSE เป็นเสื้อผ้าที่ตอบสนองความต้องการผู้สวมใส่ทุกเพศ ทุกวัย เป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย สามารถนำไป Mix & Match ได้ง่าย สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส เนื้อผ้ามีคุณภาพดี การตัดเย็บประณีต และที่สำคัญคนเกาหลี และคนไทยเป็นชาวเอเชียเหมือนกัน จึงมีขนาดและรูปร่างที่มีความใกล้เคียงไม่แตกต่างกัน ทำให้รูปทรงของเสื้อผ้ามีความเหมาะสมกับสรีระของคนไทย แม้ BASIC HOUSE จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากเราต้องการให้ลูกค้าได้ใช้ของคุณภาพดี เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าของเราจึงมีราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะสมกับคุณภาพไม่ต่างจากแบรนด์นำเข้าอื่นๆ และสินค้าบางประเภทยังถูกกว่าแบรนด์ที่ผลิตในไทยบางแบรนด์อีกด้วย

ขณะนี้ มูลค่าตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาท และด้วยกระแสเกาหลี Fever ในประเทศไทย ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปโดยเฉพาะแบรนด์เกาหลีมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นบริษัทจึงใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการแสนอสินค้าผ่านดารา นักร้อง และ Celebrities ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็น Idol ของกลุ่มเป้าหมายหลัก เป็นผู้สนับสนุนเสื้อผ้าให้กับสื่อต่างๆ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “ชอบกด Like ใช่กด Love” ที่มีคุณมอสเป็นผู้แสดงนำ รวมทั้งสนับสนุนละครเรื่องแววมยุรา และโฆษณาในวารสารต่างๆ และกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เราจัดขึ้นเพื่อโปรโมท แบรนด์ BASIC HOUSE และหลังจากนี้เราจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัด Season Launch Collection อย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือนอีกด้วย

นายอรรถสิทธิ์ เชื่อว่า การทำตลาดในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ใช้งบกว่า 20 ล้านบาท โดยปัจจุบันเรามีจุดจำหน่ายสินค้าทั้งในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์และเซ็นทรัล รวมถึงร้าน Stand Alone Store ทั้งสิ้น 16 แห่ง และในไม่ช้านี้ เรากำลังจะเปิดสาขาที่ เมกาบางนา และในอนาคตก็จะขยายสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ อีกประมาณ 10 สาขา เช่น Central World , Siam Paragon , Siam Center คาดว่าในปีนี้บริษัทจะทำยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท

“ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นในปัจจุบัน ผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ และเขตตัวเมืองในต่างจังหวัด จะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าถึงการสื่อสารในหลายรูปแบบ จึงเป็นกลุ่มบุคคลที่นิยมทางแฟชั่น มีความเชื่อมั่นและกล้าสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างจากคนอื่น การแต่งตัวจะเป็นไปตามรสนิยมของตน ทำให้เกิดความหลากหลาย ซึ่งในกลุ่มวัยรุ่นจะสวมใส่ตามเทรนด์ ดาราหรือเพื่อนฝูงที่ตนชอบ เสื้อผ้าแฟชั่นของไทยจะมีการเติบโตอย่างมาก เพราะคนไทยพิถีพิถันในการแต่งตัว สถาบันการหลายแห่งก็มีการสอนการออกแบบเสื้อผ้า ทำให้ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นในแถบอาเซียนได้ อัตราการเติบโตของตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นจะเติบโตได้มากเป็นเท่าตัวได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า”

www.newswit.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม