วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จู่โจมตรวจรางรถไฟ เส้นทางสถานีหนองปลาดุก–กาญจนบุรี ระยะทาง 132 กม. เชื่อปัญหารถไฟตกรางหมดภายใน 1 เดือน...

วันที่ 4 มิ.ย.  นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจรางรถไฟ เส้นทางสถานีหนองปลาดุก–กาญจนบุรี ซึ่งมีระยะทาง 132 กม. ว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามแผนปฏิบัติการจู่โจมตรวจ ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่ให้ รฟท.จัดทำแผนปฏิบัติการออกตรวจรางรถไฟทั่วประเทศและรายงานผลทุก 3 วัน ในระยะ 1 สัปดาห์ และระยะ 1 เดือน โดยวันนี้ รฟท.ได้มีการรถตรวจรางพิเศษ EM80 วิ่งทดสอบราง รวมทั้งนำรถอัดหินเข้าใต้มาใช้ปฏิบัติงานด้วย

นายยุทธนา กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรีในวันนี้ เป็นการออกจู่โจมตรวจ โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทราบล่วงหน้า โดยได้มอบหมายให้ผู้บริหาร รฟท.ระดับรองผู้ว่าการ ออกตรวจรางทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานระดับปฏิบัติการมีความพร้อม และกระตือรือร้นในการออกตรวจราง เพื่อป้องกันปัญหารถไฟตกราง สำหรับเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่จัดทำระบบปรับปรุงรางจากหมอนไม้เป็นหมอนคอนกรีตแล้วจำนวน 63 กม. คาดว่าจะเปลี่ยนได้ทั้งหมดภายในระยะเวลาอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่ง รฟท. มีแผนที่จะเปลี่ยนมาใช้หมอนคอนกรีตทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหารถไฟตกลงรางมาจาก 3 สาเหตุ ได้แก่ ไม่มีการปฏิบัติตามคู่มือและออกตรวจตราสม่ำเสมอของบุคลากร จึงกระตุ้นให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาหัวรถจักรที่มีสภาพเก่า บางคันมีอายุมากกว่า 40 ปี

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องนี้จะดีขึ้นหลังจาก รฟท.ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ปฏิรูประบบราง 1.7 แสนล้านบาท โดยภายใน 2 ปีข้างหน้าจะมีการสั่งซื้อหัวรถจักรใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ และยังมีปัญหาเรื่องรางเก่า ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไข เมื่อปฏิบัติการตามแนวทางแก้ปัญหาทั้ง 3 ด้านแล้ว คาดว่าปัญหารถไฟตกรางจะดีขึ้น โดยภายใน 1 เดือนข้างหน้าจะลดลงเหลือน้อยที่สุดจนถึงไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนปฏิบัติการออกตรวจรางของผู้บริหารการรถไฟฯ ในสุดสัปดาห์นี้ ได้ออกตรวจทั้งรถไฟสายเหนือ อีสาน และใต้ ซึ่ง รฟท.จะมีการรายงานผลการตรวจให้ พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รับทราบในสัปดาห์หน้า.



www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม