วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ลองฌอมป์ ผงาดเปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในไทย ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน...

ลองฌอมป์ ผงาดเปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในไทย ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เชื่อศักยภาพแฟนพันธุ์แท้ชาวไทยยังเหนียวแน่น ฟุ้งวิกฤติยูโรไม่ใช่ปัญหายังสามารถเติบโตได้ถึงเลข 2 หลัก ล่าสุดเปิดตัวส่งคอลเลคชั่นใหม่ ซูวว์เมอ ชัวร์ คอลเลคชั่นสั่งผลิตตามดีไซน์ที่ชอบ หวังเบียดอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ขึ้นแท่นเบอร์ 2 ในภูมิภาค

นางมอลลี่ ฌองเดอดิเออร์ ผู้จัดการอาวุโสภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ลองฌอมป์ (LONGCHAMP) แบรนด์กระเป๋าแฟชั่นจากฝรั่งเศสเปิดเผยว่า การเข้ามาเปิดแฟล็กชิปสโตร์ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนของบริษัทครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการเปิดสาขาในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคชาวไทยที่เป็นลูกค้าของแบรนด์อยู่แล้ว และลูกค้ารายใหม่ได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้า พร้อมกับการรับทราบความเป็นไป ความก้าวหน้าของคอลเลคชั่นแต่ละรุ่นของแบรนด์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งไทยยังนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีลูกค้าอันเหนียวแน่นของแบรนด์ และมีการติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 60% นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40% โดยได้ทดลองเปิดบริการมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี แต่จากปัญหาน้ำท่วมปลายปีที่ผ่านมาจึงต้องเลื่อนการเปิดร้านอย่างเป็นทางการมาเป็นกลางปีนี้

ทั้งนี้ในประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มียอดขายสูงสุด โดยปัจจุบันลองฌอมป์ ประเทศไทย มียอดขายสูงติด 1 ใน 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประกอบด้วย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ขณะเดียวกันยังมั่นใจว่า อนาคตประเทศไทยจะสามารถก้าวขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 2 ของประเทศที่ทำยอดขายสูงสุดในภูมิภาคนี้ได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกลองฌอมป์มีเครือข่ายร้านบูติคสโตร์ 236 สาขา และจุดขายในห้างสรรพสินค้ากว่า 1,800 แห่งใน 100 ประเทศทั่วโลก

"ตลาดในภูมิภาคเอเชีย กำลังเป็นตลาดที่มีการเติบโตของธุรกิจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของลองฌอมป์ขยายตัวและเติบโตดีในภูมิภาคนี้ โดยในปี 2011 ตลาดจีนและกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือตลาดที่เติบโตและทำกำไรให้ธุรกิจมากที่สุด เรามั่นใจว่าแฟล็กซิปสโตร์แห่งนี้ จะเป็นรากฐานความสำเร็จของเราในประเทศไทย เช่นเดียวกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งในยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ใน เอเชียแปซิฟิก และประเทศไทย ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้"

ล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดตัว 2 คอลเลคชั่นใหม่ ซูวว์เมอ ชัวร์ และ เลอ ปลิยาจเควียร์ ให้ลูกค้าสามารถออกแบบและดีไซน์กระเป๋าได้ด้วยตัวเอง พร้อมสลักชื่อย่อได้โดยปักนูนลงบนตัวกระเป๋า ในช่วง 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย.นี้ ซึ่งในแต่ละประเทศจะสั่งการผลิตได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ขณะเดียวกันภายในปีนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวคอลเลคชั่นชุด ลิมิเต็ดเอดิชั่น ที่ได้รับการออกแบบโดย Mary Katrantzou อีกด้วย รวมทั้งวางคอนเซ็ปต์การสื่อสารแนวใหม่ Creative Movement เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ลองฌอมป์แก่ลูกค้าทั่วโลก ผ่านจุดเด่นของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างสินค้าที่มีเอกลักษณ์ การวางโครงสร้างราคาที่เหมาะสม สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ารุ่นใหม่ที่นิยมใช้กระเป๋าหลากหลายรูปแบบเพื่อสอดคล้องรูปแบบการใช้งานมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดขายของลองฌอมป์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายเติบโตได้ถึง 3 เท่าตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความมีเอกลัษณ์ของแบรนด์ และการมีโนฮาวที่ดีในการผลิต พร้อมๆ กับเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

นางมอลลี่ กล่าวต่ออีกว่า แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาประเทศทางฝั่งยุโรปจะได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการทำตลาดของแบรนด์แต่อย่างใด ซึ่งแบรนด์ลองฌอมป์ยังคงสามารถเติบโตได้ดีด้วยอัตราตัวเลข 2 หลัก เช่นเดียวกับในภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดจีนและกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย

"ในปีนี้เรายังคงเน้นแผนการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยในส่วนของประเทศไทย แม้ว่าราคาจำหน่ายจะค่อนข้างเสียเปรียบในเรื่องของภาษีที่สูง 30% แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่างอินโดนีเซียที่มีอัตราภาษีอยู่ที่ 40% ซึ่งเชื่อว่าในส่วนของการวางโครงสร้างของราคาในไทยยังจะสามารถแข่งขันได้"

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มในประเทศ หลังจากที่เปิดสาขาแรกที่สยามพารากอน โดยหลังจากที่เปิดแฟลกชิปสโตร์ในไทยแล้วและยังมีแผนที่จะเปิดแฟลกชิปสโตร์ภายในศูนย์การค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีสินค้าคอลเลคชันใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมียอดขายขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตลาดภูมิภาคอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งทางบริษัทมั่นใจและเชื่อแน่ว่าประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกยาวไกล



www.banmuang.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม