"ดิฉันขอให้แรงงานพม่ารู้จักการให้เกียรติประเทศไทยและคนไทย อย่าได้สร้างปัญหาให้กับประเทศไทย ต้องทำงานให้ดีๆ เป็นคนดี ถ้ามีอะไรขอให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในประเทศไทย อยู่เมืองไทยต้องรู้รักษาความสงบภายในบ้านเมืองของคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนขอให้รักประเทศไทยเหมือนกับรักประเทศพม่า และทำงานต้องทำให้เต็มที่ ช่วยกันดูแลเมืองไทยให้ดี และทางแม่ออง ซาน ซูจี จะกำชับให้เจ้าหน้าที่ในเมืองไทยดูแลแรงงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน"
สุดซึ้งเลยก็แล้วกัน กับบทปราศรัยของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยพม่า ที่เดินทางไปพบกับแรงงานชาวพม่านับหมื่นคนที่จังหวัดสมุทรสาคร
อยู่เมืองไทย ต้องรู้รักษาความสงบภายในบ้านเมืองของคนไทย
ประโยคลึกกินใจ ในฉากบรรยากาศคล้ายหนังสงครามกลางเมือง ทั้งแท่งคอนกรีต รั้วลวดหนามวางกั้นถนนบริเวณรอบอาคารรัฐสภา ตำรวจคอมมานโดนับร้อยนายวางกำลังป้องกันการปะทะ เจ้าหน้าที่เตรียม "บันไดลิง" ให้ ส.ส.และข้าราชการปีนข้ามรั้วออกจากอาคารรัฐสภา พร้อมรับเหตุการณ์ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่ม็อบฮือปิดล้อมสภาจนคนข้างในออกไม่ได้
ม็อบเหลือง ม็อบแดง ม็อบหลากสี ยึดพื้นที่ประจันหน้ากันคนละมุม
คนไทยก่อหวอดจ้องตะลุมบอนกันเรื่อง "ปรองดอง"
เรื่องของเรื่อง ไม่มีใครยอมถอย มติวิปรัฐบาลให้เลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯขึ้นมาพิจารณาในการประชุมสภาเป็นวาระแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม และนั่นก็เป็นเงื่อนไขให้แกนนำขาใหญ่ม็อบพันธมิตรฯเคลื่อนขบวนม็อบไปกดดันหน้าอาคารรัฐสภา ประกาศจะปักหลักยื้อจนกว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง
ข่มขู่ ท้าทายกันในที
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จับอารมณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำขาใหญ่ม็อบพันธมิตรฯที่เปิดฉากด่ากราดอดีตจ่าฝูงกองทัพบก ไล่ตั้งแต่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และที่โดนหนักเลยก็คือ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ที่ถูกยกให้เป็น "คู่กรณี" กำลังต่อปากต่อคำกันว่าด้วยเรื่องอย่าระรานทหาร อย่าเอาทหารมายุ่งกับการเมือง
เรื่องของเรื่อง โมโหที่ "ยั่วไม่ขึ้น"
ทหารยังไม่เอาด้วยกับเกมล้มกระดาน
อีกทั้งจับอาการของแกนนำม็อบพันธมิตรฯที่ย้ำแล้วย้ำอีกให้แนวร่วมยึดแนวการเคลื่อนไหวของม็อบพันธมิตรฯเป็นหลักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เหมือนกับระแวงจังหวะมีมวลชนอื่นมาแย่งซีน
ท่ามกลางม็อบกระจัดกระจาย ไม่รู้สายไหนเป็นสายไหน
และนั่นก็โยงไปถึงสัญญาณจาก "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศจะออกฤทธิ์ คัดค้านการออก พ.ร.บ.ปรองดองให้ถึงที่สุด ล้อกับอาการ "เดอะคึก" นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งซิกให้กองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ออกมาร่วมชุมนุมบนถนน ปลุกระดมม็อบทุกสีให้ต่อต้าน พ.ร.บ.ปรองดองกันเต็มที่
ประชาธิปัตย์พร้อม "จัดหนัก" เกมนอกสภา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยแนวร่วมคงไม่ใช่ม็อบพันธมิตรฯที่ "ตัดญาติ" กันไปตั้งแต่การชุมนุมไล่อดีตรัฐบาลประชาธิปัตย์เรื่องเขาพระวิหาร ขัดใจกันไปแล้ว ประกอบกับอาการ "ช้ำ" ของบรรดาแกนนำม็อบพันธมิตรฯที่ติดคดีก่อการร้ายยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล มีทัณฑ์บน
จุดม็อบติดยากแล้ว
ถ้าจะมีการผสมโรงกันจริง ก็น่าจะมุ่งไปที่ม็อบเสื้อหลากสีของนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ที่เคยถูกแกนนำม็อบพันธมิตรฯเปิดเบื้องหลังว่าเป็นแนวร่วมตัวจริงของพรรคประชาธิปัตย์
และนั่นก็จะเป็นสูตรสำเร็จการเมือง "เพี้ยน" ที่สลับฉากกลับข้าง
จากคิวของพรรคเพื่อไทยที่ได้ม็อบเสื้อแดง นปช.ก่อหวอดบนถนนเขย่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีทีวีช่องเอเชียอัพเดท คอยปลุกเร้ากระแส พลิกมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ม็อบหลากสีเป็นกองกำลังหลักเกมการเมืองนอกสภา โดยมีช่องทีวีสีฟ้าคอยปลุกอารมณ์กองเชียร์
ตามเกม ม็อบการเมืองยังต้องเย่อกันอีกหลายยก
แต่ที่น่าห่วงจริงๆก็คืออารมณ์ของ "ม็อบธรรมชาติ" ที่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล กับปรากฏการณ์ที่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ชุมนุมปิดถนนประท้วงรัฐบาล ที่จ่ายเงินช่วยเหลือล่าช้า และถึงเวลาจ่ายกันจริง บางบ้านได้แค่หัวละ 70 บาท
ท่ามกลางกระแสทุจริต กระทรวงมหาดไทยตุกติกงบช่วยน้ำท่วม
ถ้าเกิดอารมณ์ร่วมผสมโรงม็อบการเมือง มันจะเอาไม่อยู่.
www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น