วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยว ไทย & พม่า

งบรายได้ด้านการท่องเที่ยว 55 ในมูลค่า 6,570 ล้านบาท ส่วนในปี 56 รัฐบาลขอเพิ่มงบประมาณขึ้น 31.84% เป็น 8,662 ล้านบาท

ส่วนใหญ่งบเร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวที่รัฐบาลขอใช้ใน พ.ศ.2556 นั้น จะใช้ไปในการส่งเสริมการตลาดเชิงรุก ใช้ประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ ซึ่งต่อให้ท่านใช้งบประมาณมากกว่านี้อีก 100 เท่า ภาพลักษณ์ของประเทศไทยก็ไม่สามารถดีขึ้นมาได้  เนื่องจากเรายังมีพลเมืองระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นไปลากเก้าอี้ประธานสภาออกไปนอกห้องประชุม ขึ้นไปกระชากลากฉุดประธานสภาของพวกตนลงมาข้างล่าง หรือหรือบางวันก็มีการบีบคอ ส.ส.ด้วยกันอวดประชาชนคนดูโทรทัศน์ทั่วโลก

แม้ กระทรวงวัฒนธรรมของไทยใช้งบเท่าใดก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ หากผู้คนระดับ ส.ส. ของเรายังเอาสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ แฟ้มบ้าง เขวี้ยงปาประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้คนที่ทำงานในด้านศาสนาและจริยธรรมก็คงจะถดถดยและละอายต่อพฤติกรรม เพราะต้นแบบฉบับของเยาวชนคนที่เป็นถึงผู้แทนราษฎรประพฤติตัวไปในทางที่เสื่อมจริยธรรม ไม่มีวัฒนธรรมและสติ

เมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้มีข่าวฉาวของ ส.ส.ชายของไทยดูภาพโป๊ในขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อเห็นภาพ ส.ส. ล่อกันนัวเนียในสภา ประชาชนคนดูทีวีโลกไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ ส.ส. กลุ่ม ว่ามาจากที่ไหน รู้แต่เพียงว่า นี่คือ ส.ส. ไทย ส.ส. ก็เน่าไปทั้งสภา เหมือนปลาเหม็นแค่ตัวเดียวไปทั้งข้อง อีกทั้งดูหมิ่นถิ่นแคลนไปถึงประชาชนคนในจังหวัดที่เลือก ส.ส. พวกนี้  ว่าใช้ส่วนไหนของสมองตรองกรองเอาคนพวกนี้เข้ามาเป็นผู้แทนของตนในสภา

ในปี 2556 รัฐบาลนี้มีความมุ่งมั่นปรารถนาว่า  จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศถึง 24.2 ล้านคน รัฐบาลเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยใน พ.ศ.2557 ถึง 26.4 ล้านคน และ พ.ศ.2558 ปีที่ประชาคมอาเซียนจะเปิดเสรีอย่างสมบูรณ์ ตามแผนเดิม จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวอยู่ที่ 28.6 ล้านคน

รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้วางยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวไว้อย่างรัดกุมและชัดเจน มีวิจัยทางวิชาการสนับสนุนเป็นเรื่องเป็นราวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะใช้เงินไปในค่าโรงแรม ค่าข้าวปลาอาหาร และซื้อสินค้าประเภทยาดม ยาอม ยาหม่อง กระจกเงา กระเป๋าหิ้ว แว่นตา นาฬิกา ฯลฯ เพิ่มมากขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 9 ในปี 2556 เราจะมีเงินจากการนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.03 ล้านล้านบาท รวมทั้งเงินที่นักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวไปในประเทศเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือเป็นเงินมากถึง 0.46 ล้านล้านบาท

ท้ายที่สุด ภายในปี พ.ศ. 2558 ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลนี้ เราจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คือเป็นเงินมากถึง 2.2 ล้านล้านบาท

งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 รัฐบาลเสนอให้รัฐสภาพิจารณาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.4 ล้านล้านบาท ถ้าคนไทยช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ของประเทศไว้ ประเทศไทยนี้เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรม แค่รายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ก็เกือบเลี้ยงพวกเราได้อย่างสมบูรณ์

สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐสภาที่ผ่านมานั้น ทำมีโรคร้ายหลายประเภทมะรุมมะตุ้มการท่องเที่ยวไทย อาจจะส่งผลทำให้ผู้คนไม่มาเที่ยวประเทศของเรา การท่องเที่ยวโทนนี้ สไตล์นี้ จะมีแค่เพียงจากในประเทศของเรา ประเทศที่มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวคล้ายเราและมีศักยภาพเป็นคู่แข่งเราได้มากที่สุดก็คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ทว่า เมื่อก่อนการท่องเที่ยวพม่าไม่ดัง เพราะพม่าปิดประเทศ

ในวันนี้ พม่ามาเปิดแล้ว รัฐบาลพม่าประกาศแผนแม่บทเรื่องการท่องเที่ยวและการลงทุนออกมาอย่างถนัดชัดเจน แม้แต่เรื่องการถือครองที่ดิน ปัจจุบันทุกวันนี้ พม่าให้สิทธิ์การถือครองที่ดินแก่ต่างชาติ 30 ปี และสามารถต่ออายุได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 15 ปีรวมเป็น 60 ปี

ไม่เคยมียุคสมัยใด ที่รัฐบาลพม่าจะฟังเอกชนขนาดนี้ ภาคเอกชนพม่าเตรียมเสนอรัฐบาลเพื่อแก้ไขกฎหมายให้ชาวต่างชาติเพิ่มสิทธิ์ครองที่ดินได้ยาวนานถึง 50ปีและต่ออายุได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ปี รวมเป็น 70 ปี และก็มีแนวโน้มว่า จะมีร่างกฎหมายนี้เข้าไปในสภาของพม่า พอถึงวันนั้น นักลงทุนก็จะแห่กันเข้าไปลงทุนด้านการท่องเที่ยวในพม่า

ร่างกฎหมายใหม่ที่จะเข้าสภาพม่าในไวๆ นี้ เป็นเรื่องให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ได้ 100% ระดับ 3 ดาว ชาวต่างชาติลงทุนได้ 35-99% ส่วนระดับ 1-2 ดาว จะสงวนสิทธิ์การลงทุนให้เฉพาะคนพม่าเอง เพื่อให้ธุรกิจท้องถิ่นของประชาชนคนพม่าอยู่ได้

จึงอยากวอนขอให้ ส.ส. ไทยที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือหยุมหยิบ ประเภทผู้จัดการสันดานเสมียน หรือ ส.ส. ที่แย่งงาน อบต.ทำ ประเภทอภิปรายในสภาเรื่องน้ำท่วม ได้หันมาสนใจเรื่องที่สำคัญกว่า อย่างร่างกฎหมายของต่างประเทศ เพื่อเราได้ไม่ตกโลก

แม้แต่ร่างกฎหมายของพม่านี่ก็น่าอ่าน

เราจะได้ลอกเลียน เอามาตรากฎหมายให้ทันโลกอย่างพม่าบ้าง.

 



www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม