"พุทธชยันตี" หรือ สัมพุทธ คำคำนี้ไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยมาก่อนชยันตี แต่งที่มีความหมายเกี่ยวข้องโดยตรงกับวันวิสาขบูชา ซึ่งประเทศที่นับถือพุทธศาสนาเมื่อจัดงานกลับเรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น ศรีสัมพุทธชยันตี สัมพุทธชยันตี ในภาษาสันสกฤต พุทธชยันตีแปลว่า การครบรอบวันเกิดของพระพุทธเจ้า หรือวันครบรอบชัยชนะของพระพุทธเจ้า คือการจัดกิจกรรมเพื่อมุ่งหมายการถวายเป็นพุทธบูชาในปีที่ครบรอบวาระสำคัญของพระพุทธเจ้า
ในประเทศศรีลังกา อินเดีย พม่า และผู้นับถือพระพุทธศาสนาในประเทศอื่นๆ จัดงานเฉลิมฉลองนี้ก่อนประเทศไทย 1 ปี ซึ่งการจัดงานฉลองของไทยมีขึ้นครั้งแรกในสมัยรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีการจัดสร้างพุทธมณฑล การประกาศให้วันธรรมสวนะเป็นวันหยุดราชการ โดยจัดเป็นงานฉลองทางพระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม พระราชบัญญัติล้างมลทิน โดยใช้ชื่องานว่า "งานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ" ทำให้ พุทธชยันตี ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยทั่วไป นอกจากนี้ก็มีการยกเลิกให้วันธรรมสวนะเป็นวันหยุดราชการในรัฐบาลหลังจากนั้น
แม้ว่างานเฉลิมฉลองพุทธชยันตีจะล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆในปีนี้ แต่ก็ได้มีผู้นำศาสนาพุทธในหลายประเทศเดินทางมาร่วมงาน ขณะเดียวกันคนไทยทั้งประเทศก็ร่วมใจกันบำเพ็ญกุศล ชำระล้างใจให้คิดดี ทำดี เพราะวันนี้ประชาชนรับรู้กันทั่วไปอยู่แล้วว่า คือ วันวิสาขบูชา วันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน จึงเป็นวันที่คิดดี ทำดี ไม่ให้ร้ายป้ายสีกัน กระทั่งหากอโหสิกรรมกัน และใช้โอกาสนี้ แต่ละฝ่ายได้เลิกแล้วต่อกัน รวมทั้งให้ชาติบ้านเมืองสงบปรองดอง
นอกจากจะมีภาพประชาชนไปบำเพ็ญกุศล ทำบุญให้ทาน ก็ยังมีข่าวการเมืองที่ลดความรุนแรงลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ จงอย่าคิดเพียงแค่ว่า สิ่งที่ตนนำเสนอนั้นคือความถูกต้อง และเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองไปข้างหน้าได้ทัดเทียมกับอารยประเทศซึ่งความเป็นจริงแล้วประเทศที่ยกย่องเทิดทูนนั้นเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำและมีความขัดแย้งทางสังคมอย่างรุนแรง
บางทีทุกคนในสังคม หากรู้จักละวาง รู้จักการให้อภัยอย่างจริงใจกันบ้าง ประเทศไทยก็คงจะเป็นประเทศที่น่าอยู่กว่านี้อีก เพราะผู้คนจะสมัครสมานสามัคคี ไม่ต้องคอยหวาดผวาว่า วันนี้พรุ่งนี้ คนสีนั้น สีนี้จะพากันมาปิดถนนหนทาง ไม่ต้องคอยไล่จับดูรัฐบาลว่าจะเล่นแร่แปรธาตุทำงานเพื่อคนบางคน หรือบางกลุ่มแล้วละเลยประชาชนคนทั้งประเทศ หาไม่แล้วต่อให้มีวันสำคัญทางศาสนามากแค่ไหนก็คงไม่มีผล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น