ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการเดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เวลา 15.25 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อเยือนกาตาร์อย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 15-16 พ.ค. และเดินทางไปยังโรงแรม Four Seasons Doha ซึ่งรัฐบาลกาตาร์ได้จัดให้เป็นที่พัก
จากนั้น เวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ H.H. Sheikh Hamad bin Khalifa Al-Thani เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ณ พระราชวัง Al Wajbah ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานโอกาสให้เข้าเฝ้าฯ และได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและกาตาร์ที่มีความใกล้ชิด โดยการเยือนครั้งนี้ นับเป็นการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และกราบทูลเชิญฯเสด็จเยือนไทยในวโรกาสต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้หารือข้อราชการกับ H.E. Sheikh Hamad bin Jassim bin Jabr Al-Thani นายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศกาตาร์ แบบเต็มคณะ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและกาตาร์ที่เป็นมิตรแนบแน่นและยาวนาน และหวังที่จะร่วมกับกาตาร์ในการขยายความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค เพื่อประโยชน์ร่วมกัน โดยไทยชื่นชมบทบาทสำคัญของกาตาร์ในโลกมุสลิม และด้วยกาตาร์มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอาหรับ จึงเชื่อมั่นว่า ไทยและกาตาร์จะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ซึ่งเป็นประตูสำหรับการค้าและการลงทุน รวมทั้งรูปแบบความร่วมมือต่างๆด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณกาตาร์ที่ให้การสนับสนุนท่าทีไทยเกี่ยวกับปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้ในเวทีองค์กรความร่วมมืออิสลามหรือ OIC มาโดยตลอด อีกทั้งสนับสนุนด้านการศึกษาและการลงทุนในภาคใต้ของไทย
ในโอกาสนี้ ไทยและกาตาร์ได้หารือถึงกรอบความร่วมมือต่างๆที่สามารถเสริมสร้างและขยายผลเพื่อประโยชน์ร่วมกัน โดยกาตาร์เห็นว่าขณะนี้ไทยมีความมั่นคงทั้งด้านการเมือง และศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ดังนั้นจึงเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ในสาขาที่สำคัญ ได้แก่
1.การก่อสร้าง โดยภาคเอกชนไทยมีความสนใจเข้าร่วมการพัฒนาสาธารณูปโภคและสนามกีฬา เพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022 ของกาตาร์ เพราะไทยมีศักยภาพด้านฝีมือแรงงาน สถาปัตยกรรม และการวางระบบต่างๆ ซึ่งกาตาร์ยินดีเปิดรับนักลงทุนในสาขานี้ และจะดำเนินการอย่างโปร่งใส
2. ความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันในเรื่องดังกล่าว และในฐานะผู้ผลิตอาหารรายสำคัญไทยยินดีจัดหาอาหารตามชนิดที่กาตาร์ต้องการเป็นการเฉพาะ และไทยยินดีร่วมมือกับกาตาร์เป็นไซโลอาหาร เพื่อเป็นแหล่งสำรองอาหารให้กับกาตาร์
3. ความร่วมมือภาคการลงทุน โดยไทยยินดีสนับสนุนกาตาร์ และ QIA (Qatar Investment Authority) และ Qatar Holdingซึ่งเป็นสถาบันการลงทุนของกาตาร์ร่วมลงทุนในภาคการเงินของไทย โดยจะได้ให้หน่วยงานทั้งสองประเทศนำไปหารือและศึกษาต่อไป โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ ที่กาตาร์มีความสนใจ และเสนอให้มีการจัดทำรายชื่อสาขาธุรกิจและผู้ติดต่อแหล่งสำรองอาหารให้กับกาตาร์ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินงาน
4. การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และการบริหารจัดการโรงพยาบาล ไทยยินดีต้อนรับประชาชนกาตาร์เพื่อท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และจะขยายความร่วมมือระหว่างกันในสาขาโรงพยาบาลและธุรกิจด้านสุขภาพ โดยรัฐบาลได้อนุมัติในหลักการให้ขยายเวลาการพำนักในประเทศไทยรวม 90 วันสำหรับกรณีนี้ นอกจากนี้ โรงพยาบาลเอกชนของไทยยินดีเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกด้านการแพทย์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022
5.ความร่วมมือด้านพลังงาน ไทยและกาตาร์เห็นว่ายังมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันได้อีก โดยกาตาร์เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับรัฐมนตรีพลังงานเพื่อผลักดันการขยายความร่วมมือให้เป็นผล ทั้งนี้บริษัท ปตท และ Qatargas จะได้รับการสนับสนุนให้มีการลงนามความตกลงระยะยาวในการซื้อขายก๊าซ LNG และบริษัทพลังงานของไทยจะเป็นประตูของกาตาร์สู่อาเซียนและภูมิภาคใกล้เคียง นอกจากนี้ ไทยกำลังเจรจาซื้อก๊าซ LNG จากกาตาร์จำนวน 600,000 ตันในปีนี้ และได้มีการตกลงซื้อขายระยะยาวจำนวน 2,000,000 ตันในปีหน้าแล้ว
6.การยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากไทย โดยกาตาร์จะยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าภายใน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลรัฐกาตาร์กับรัฐบาลไทยจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานในรัฐกาตาร์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ปฏิญญาร่วมในการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตรโดยเฉพาะอาหารฮาลาล จากนั้น นายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศกาตาร์ เป็นจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ
www.khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น