วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มิใช่ทรงอัจฉริยภาพด้านศิลปะ หรือในฐานะนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติเท่านั้น…หากวันนี้...

มิใช่ทรงอัจฉริยภาพด้านศิลปะ หรือในฐานะนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติเท่านั้น…หากวันนี้ ความมุ่งพระทัยด้านกีฬาขี่ม้ายังเป็นที่ประจักษ์ เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน เสด็จไปทรงเข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้า "ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ คิงส์คัพ 2012" ซึ่งจัดโดย มร.ฮาราลด์ ลิงค์ นายกสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย และประธาน กลุ่มบริษัท บี.กริม ณ สนามไทยโปโล แอนด์ อีเควสเทรียนคลับ ชลบุรี พร้อมคว้าแชมป์ขี่ม้าจูเนียร์ฟรีสไตล์โอเพ่น ประเภทศิลปะการบังคับม้า ด้วยลีลาและท่วงท่าสง่างาม ประจักษ์แก่สายตาผู้ชมการแข่งขัน และเชื่อได้เลยว่า อีกไม่นานนับจากนี้ กระแสความนิยมของกีฬาขี่ม้า คงเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นในไทย

ความสำเร็จด้วยลีลาอันสวยงามครั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน ทรงม้าชื่อ คาร์นีโอล (Karneol) สังกัดสโมสรทหารม้ารักษาพระองค์ โดยทรงเลือกความไพเราะของเพลงโปรด Vogue ของราชินีแห่งเพลงป๊อป มาดอนน่า หลุยส์ เวอโรนิกา ซิกโคน ซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของโลกตั้งแต่ยุค 80s มาประกอบจังหวะในการแข่งขัน โดยทรงทำคะแนนรวมได้ถึง 489 คะแนน คิดเป็น 61.13 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นคะแนนสูงสุดในรุ่นเดรสซาจ จูเนียร์ ฟรีสไตล์ โอเพ่น ระดับโนวิซ ซึ่งนับว่าไม่ธรรมดาเลย เมื่อเทียบกับเหตุผลที่ว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน ทรงกลับมาฝึกซ้อมทรงม้าได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังทรงเข้าร่วมการแข่งขันประเภททีมกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง โดยทรงม้าชื่อ "ทันย่า" (Tanya) ร่วมกับทีมของชมรมขี่ม้าทหารม้ารักษาพระองค์ ทรงบังคับม้าตามเส้นทางกำหนดจำนวน 10 เครื่อง 11 จั๊มพ์ ใช้เวลาไป 66.55 วินาที นับคะแนนรวมของทีม ทำเวลารวม 166.78 วินาที และทรงได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน ประทานสัมภาษณ์หลังการแข่งขันว่า ดีใจมากที่ได้ตำแหน่งชนะเลิศ ซึ่งกีฬาขี่ม้านั้นแตกต่างไปจากแบดมินตันมาก โดยแบดมินตันต้องใช้ทักษะและร่างกายทุกส่วน เพื่อเอาชนะฝ่าย ตรงข้าม แต่ขี่ม้านั้น มีคนเดียวที่ต้องต่อสู้ คือ ตัวเอง ต้องควบคุมอารมณ์ และบังคับม้าให้ดีที่สุด ซึ่งได้เตรียมความพร้อมก่อนมาโดยตลอด ทั้งวิทยาศาสตร์การกีฬาและด้านร่างกาย โดยเฉพาะเรื่องการเสริมสร้างร่างกาย คิดอยู่เสมอว่าจะต้องทำให้ดีที่สุด ถึงตอนนี้เรียกว่า ถึงเวลาล่าแชมป์แล้ว หลังจากที่ทรงคว้าเหรียญทองแบดมินตันประเภททีมหญิง ในซีเกมส์ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์ ในปี 2548

ด้วยพระประสงค์ที่จะเข้าร่วมแข่งขันกีฬาขี่ม้าในนามทีมชาติในการแข่งขันซีเกมส์ จึงได้ทรงทุ่มเทเวลาไม่น้อยกับกีฬา ขี่ม้าเป็นหลัก "ขณะนี้ สมาคมขี่ม้าฯ ได้ถวายงานอย่างใกล้ชิด เชื่อได้เลยว่า อีกไม่นานนับจากนี้ เราคงจะได้เห็น พระปรีชาสามารถทางด้านนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติของประเทศไทยอย่างแน่นอน" กล่าวเสริม โดย มร.ฮาราลด์ ลิงค์



www.banmuang.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม