รัฐกาตาร์ 16 พ.ค.- นายกรัฐมนตรี ชื่นชมกาตาร์ เป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ฟีฟ่าให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ พร้อมหนุนโรงพยาบาลไทยร่วมกับ ASPETAR ในฟุตบอลโลก 2022
“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 15-17 พฤษภาคม 2555 รายงานว่า เวลา 10.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 4 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้บริหารของศูนย์การแพทย์เพื่อการกีฬาของกาตาร์ (Aspetar - Qatar Orthopedic and Sports Medical Center) พร้อมชื่นชมพัฒนาการ และระบบอำนวยความสะดวกด้านเวชศาสตร์การกีฬาของสถาบัน ASPETAR ที่ถือเป็นสถาบันกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬาแห่งแรกในภูมิภาค
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเพียงไทย ญี่ปุ่น และกาตาร์เท่านั้น ที่มีโรงพยาบาลที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมาธิการด้านการแพทย์ของฟีฟ่า และศูนย์วิจัยและประเมินทางการแพทย์ฟีฟ่า (F-MARC) ให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ของฟีฟ่า โดย ASPETAR ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเป็นสถาบันล่าสุด
นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความสนใจ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่มาของความสำเร็จของ ASPETAR รวมถึงระบบ Total Care Concept ของ ASPETAR และการเตรียมพร้อมของ ASPETAR เพื่อการเป็นประธานการจัดงาน 2022 World Cup
สำหรับงาน 2022 World Cup ที่จะมาถึง นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า ชื่อเสียงและมาตรฐานระดับโลกของโรงพยาบาลในประเทศไทย จะสามารถช่วยสนับสนุน ASPETAR และโรงพยาบาลของกาตาร์ได้อย่างดี เนื่องจากไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการและเวชศาสตร์การกีฬาอยู่มาก โดยโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก F-MARC และปัจจุบัน มีการทำงานร่วมกับ ASPETAR แล้ว ในด้านการแลกเปลี่ยนแพทย์ พยาบาล และงานศึกษาวิจัยต่าง ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีคาดหวังว่า ทั้ง 2 สถาบันจะทำงานร่วมกันมากขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ ASPETAR พิจารณาการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจกับไทย ในการร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์กับมหาวิทยาลัยของไทย อันจะเป็นประโยชน์แก่ทั้ง 2 ประเทศ โดยไทยมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ ASPETAR และรัฐบาลกาตาร์ ในด้านการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวก และการบริการด้านเวชศาสตร์การกีฬาระดับโลก และขออวยพรให้กาตาร์ประสบความสำเร็จ ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ฤดูร้อน ในปี 2020
จากนั้น เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนาย Hassan Al Thawadi เลขาธิการ Qatar 2022 Supreme Committee โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำความสำคัญของการเดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกาตาร์ โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับกาตาร์ ที่เป็นประเทศอาหรับ ชาติแรก ที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานฟุตบอลโลก ปี 2022 และเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในอีก 10 ปีข้างหน้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยสนใจมีส่วนร่วมเป็นผู้ก่อสร้างอาคาร สนามฟุตบอล เพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลก และมั่นใจว่า บริษัทรับเหมาก่อสร้างของไทย มีศักยภาพในการเป็นผู้ก่อสร้างโครงการต่างๆ ของกาตาร์ ด้วยคุณภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุน ทั้งการเป็นผู้ก่อสร้างหลักและรายย่อย อีกทั้งไทยสนใจสนับสนุนงานด้านบริการ อาทิ บริการการแพทย์และสุขภาพ วิทยาศาสตร์การกีฬา
ทั้งนี้ กาตาร์จะมีการก่อสร้างสนามกีฬา โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในการปรับอุณหภูมิให้สนามกีฬาเย็นลง (Air-conditioned stadium) เพื่อป้องกันความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน อีกทั้ง มีการพัฒนาเมฆเทียม เพื่อทำร่มเงาให้กับสนามกีฬา โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ มีการนำระบบ QSAS (Qatar Sustainability Assessment System ) - sustainable urban environment มาใช้ในโครงการสร้างสนามกีฬาคือ ระบบลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลต่อสังคมท้องถิ่น รวมทั้งมีโครงการรถไฟฟ้า Qatar’s Integrated Railway Project ที่เชื่อมระหว่างสนามกีฬา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพื่อพบปะกับภาคเอกชนไทย-กาตาร์ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์ เพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทยและกาตาร์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนเดินทางกลับประเทศไทยในเวลา 21.00 น. และมีกำหนดการถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ในเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2555 เวลา 07.20 น.-สำนักข่าวไทย
www.mcot.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น