ไอดีซีคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 55 ไทยจะมียอดการใช้จ่ายด้านไอทีสูงเป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียน หลังถูกสิงคโปร์แซง เนื่องจากจากผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ ยังคงใช้จ่ายและลงทุนด้านไอทีต่อเนื่อง แม้กำลังฟื้นฟูจากเหตุอุทกภัยปี 54 เชื่อ 5 ปีจากนี้อัตราการเติบโตอยู่ที่ 10.8% โดยตลาดสมาร์ทโฟนเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ...
ไอดีซี เผยถึงการคาดการณ์ว่า ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ประเทศไทยจะกลับมามียอดการใช้จ่ายด้านไอทีสูงเป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้ง หลังจากที่ถูกประเทศสิงคโปร์เบียดแซงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยยังคงใช้จ่าย และลงทุนในสินค้าเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าประเทศจะยังอยู่ในระหว่างฟื้นฟูความเสียหายจากวิกฤติการณ์อุทกภัยเมื่อปลายปีที่แล้ว และยังต้องประสบกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็ตาม โดยไอดีซีพยากรณ์ว่าในช่วง 5 ปีนี้ (2555 - 2559) ประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตของการใช้จ่ายด้านไอทีต่อปีอยู่ที่ระดับสูงกว่าประเทศสิงคโปร์ คือเติบโตขึ้น 10.8% ต่อปี
ส่วนระดับการใช้จ่ายด้านไอทีรวมของทั้งภูมิภาคในปีนี้นั้น ไอดีซีคาดว่ามีแนวโน้มสูงที่จะแตะที่ระดับ 5.47 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีประเทศอินโดนีเซียเป็นผู้นำ ตามมาด้วยประเทศไทย (1.1 หมื่นล้านเหรียญ) และประเทศสิงคโปร์ (1.06 หมื่นล้านเหรียญ) ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ยอดการใช้จ่ายด้านไอทีของไทยถีบตัวสูงขึ้นนั้นมี 2 ประการ คือ การเติบโตของการใช้จ่ายซื้อสินค้าสมาร์ทโฟน และการขยายตัวของอุตสาหกรรมการให้บริการด้านไอทีในประเทศ
ไอดีซีเชื่อว่าตัวเลขการใช้จ่ายด้านไอทีของไทยจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไปถึงระดับ 1.66 หมื่นล้านเหรียญได้ภายในปี 2559 ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนที่สูงที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมูลค่าของตลาดสมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้ได้เติบโตขึ้น 76% ในปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.5 พันล้านเหรียญ
นางสาวเมลิสซ่า เฉา ผู้จัดการสายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ประจำไอดีซีเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า ประเทศไทยจะได้รับการจับตามองในฐานะดาวรุ่งในตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้ โดยมีไอโฟนที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคที่สนใจในเทคโนโลยีเป็นผู้นำในตลาดระดับบน ในขณะที่ผู้ผลิตในประเทศเองก็มีส่วนกระตุ้นตลาดด้วยการผลักดันสินค้าสมาร์ทโฟนที่มีราคาต่ำกว่า 4,500 บาทออกสู่ตลาดทั่วไป
ขณะที่ ตลาดการบริการด้านไอทีในภูมิภาคก็มีแนวโน้มที่สดใสเช่นเดียวกัน ในช่วงปี 2555 - 2559 นั้นประเทศไทยน่าจะมีปริมาณการใช้จ่ายด้านบริการไอทีสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่หลายองค์กรได้หันมาใช้บริการเอาท์ซอร์ส ที่สามารถตอบสนองต่ออุปสงค์ของตลาดได้ดีกว่าการจัดตั้งหน่วยงานในองค์กรขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบ โดยภาคส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงคือ การให้บริการด้านการวางระบบ การให้บริการด้านการจัดการการปฏิบัติงาน และบริการด้านซัพพอร์ตต่างๆ
ด้าน นายคริส มอร์ริส รองประธานของไอดีซีเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวเสริมว่า อุปสงค์ที่มีต่อบริการด้านไอทีในประเทศไทยได้รับแรงผลักดันจากการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อส่งออก และภาคผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อบุคคลากรภายในไม่มีทักษะด้านไอทีเพียงพอ องค์กรต่างๆ จึงเลือกที่จะพึ่งพาบริการเอาต์ซอร์สในการวางระบบและจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีรวมถึงอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ.
www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น