วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ ส่งเสริมแพงทั้งแผ่นดิน

    สุดท้ายแล้วสถานการณ์แพงทั้งแผ่นดิน ก็บีบบังคับให้รัฐบาลต้องมาเร่งแก้ปัญหาข้าวของราคาเป็นหลัก หลังไปสุมหัวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควานหากฎหมายปรองดองเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวมาค่อนปี
    สิ่งที่ทักษิณคิดให้เพื่อไทยทำนั้น จะเริ่มส่งผลด้านลบมากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องจากจุดเริ่มต้นของนโยบายที่ใช้บริหารประเทศนั้นฝืนความเป็นจริงในหลายด้าน  บวกกับแนวคิดไม่เป็นหนี้ ไม่มีทางรวย ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงมีอิทธิพลต่อรัฐบาลในการเพิ่มเติมนโยบายให้กู้ หรือกองทุนในหลากหลายรูปแบบ
    นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน การขึ้นเงินเดือนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท ลดภาษีนิติบุคคลให้เหลือ 23% จาก 30% การรับจำนำข้าวขาวในราคา 15,000 บาทต่อตัน และข้าวหอม 20,000 บาทต่อตัน กองทุนสตรี รวมไปถึงนโยบายบ้านหลังแรก รถยนต์คันแรก
    ทั้งหมดข้างต้นล้วนเป็นนโยบายให้มีการกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งสิ้น เป็นไปตามสูตรสำเร็จการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยการกระตุ้นการใช้จ่าย คงยังจำกันได้กับคูปอง 2 พันบาท รัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนจับจ่ายอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นมีการซื้อบัตรคิวเพื่อรับคูปองและชุมนุมประท้วงปิดถนน เพราะเงื่อนไขการจับจ่ายของคูปองไม่เป็นตามที่คาดหวังเอาไว้
    แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่มีนโยบายหรือกิจกรรมส่งเสริมการออมเลย ประชาชนได้มาเท่าไหร่ก็จับจ่ายหมดตามที่รัฐบาลออกนโยบายมาหลอกล่อ สุดท้ายเมื่อนโยบายของรัฐบาลไปผลักดันให้ราคาข้าวของแพงขึ้นมา ทั้งในแง่จิตวิทยา และการฉวยโอกาส รัฐบาลก็ทำได้แค่โทษว่าประชาชนคิดไปเอง แล้วค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยการเปิดร้านธงฟ้าให้ชาวบ้านควานหาเล่น พอให้เห็นว่ารัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนแล้ว
    ภาวะผู้นำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด แต่ก็ย่ำแย่เต็มทน ความไม่รู้ในแทบทุกด้านที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน จะส่งผลต่อเนื่องนับจากนี้ไป แต่เรื่องราคาข้าวของแพงทั้งแผ่นดินนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว และจะเป็นอย่างนี้ไปอีกพักใหญ่ จนกว่าธรรมชาติจะเข้ามาแก้ปัญหาให้รัฐบาล
    นับแต่รัฐบาลนี้เข้าบริหารประเทศ ประชาชนที่มีเงินในกระเป๋าได้พากันใช้เงินจับจ่ายตามที่นโยบายรัฐบาลหลอกล่อ ส่วนประชาชนที่ไม่มีเงินก็รวมกลุ่มกันเป็นหนี้ตามที่นโยบายรัฐบาลเปิดช่อง นโยบายของรัฐบาลส่งเสริมให้มีการใช้จ่ายกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา 
    แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น เมื่อสินค้าแทบทุกชนิดมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ คำตอบล่าสุดจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมิใช่ความผิดของรัฐบาลแม้นิดเดียว นายกฯ โทษว่าเป็นเพราะประชาชนมีเรื่องต้องจับจ่ายเยอะ ทำให้ดูเหมือนว่าของแพงขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้แพงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งก็หมายถึงสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บ้างก็ว่าประชาชนคิดไปเอง
    กับวลีเด็ด "ประชาชนคิดไปเอง" มีการขยายความกันอีกครั้ง สดๆ ร้อนๆ อ้างว่าเป็นเพราะไตรมาสแรก ประชาชนไม่รู้สึกว่าของแพงเพราะโบนัสออกปลายปี มาไตรมาสสอง อากาศร้อน รายจ่ายเยอะทำให้คิดไปเองว่าของแพง แต่หากสำรวจให้ดี ประชาชนต้องจับจ่ายแบบเดือนชนเดือนมาตั้งแต่หลังน้ำท่วม โบนัสออกมาเท่าไหร่ก็หมดทันที เพราะต้องซ่อมแซมบ้าน เครื่องมือทำมาหากิน  เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะเอาอยู่
    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงจะเป็นประชากรของประเทศไทยคนเดียวที่บอกว่า หมูปิ้ง ราคาถูกลงแล้ว ในขณะที่ราคาหมูอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะหน้าร้อนหมูโตช้า เป็นไปได้หรือไม่ ที่นายกรัฐมนตรีเคยพาลูกชายไปซื้อหมูปิ้งสยามพารากอนไม้ละ 20 บาท พอมาเดินตลาดสดเจอหมูปิ้งไม้ละ 5 บาท ก็ทึกทักเอาว่าราคาถูกลงแล้ว
    และรัฐบาลยิ่งลักษณ์คงเป็นรัฐบาลเดียวในโลก ที่ส่งเสริมให้ประชาชนจับจ่าย แต่เมื่อประชาชนแห่กันจับจ่าย รัฐบาลก็โทษประชาชนว่า คิดไปเองว่าของแพง และเหมือนกับด่าประชาชนกลายๆ ว่า ได้โบนัสมาแทนที่จะเก็บ กลับใช้เงินกันเหมือนใช้น้ำ เพราะมีเงินในมือเยอะจนมองว่าของถูก.



www.thaipost.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม