สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียว่า กองทัพซีเรียเปิดฉากระดมยิงปืนใหญ่ใส่ฐานที่มั่นกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในกรุงดามัสกัส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นการต่อสู้ที่ดุดเดือด และรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ประชาชนลุกฮือขึ้นประท้วง เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ออกจากตำแหน่ง เมื่อ 16 เดือนก่อน
นายรามี อับเดล ราห์มาน หัวหน้ากลุ่มผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า กองกำลังของรัฐบาลบุกโจมตีย่านชุมชนหลายแห่งอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยพื้นที่ที่สถานการณ์รุนแรงที่สุดอยู่ในเขตทาดามอน, เคฟาร์ ซูซา, นาห์ ไอชา และซิดี กาแดด ซึ่งมีรายงานพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 6 ศพ อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 105 ศพ ประกอบด้วยประชาชน 48 ศพ ทหาร 41 ศพ และนักรบกบฏ 16 ศพ จากการปะทะต่อสู้รุนแรงทั่วประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค. เพียงวันเดียว
ด้านนายจอร์จ ซาบรา โฆษกสภาแห่งชาติซีเรีย ( เอสเอ็นซี ) กล่าวยกย่องกองกำลังติดอาวุธที่ออกมาสู้รบต่อต้านกองทัพรัฐบาล พร้อมทั้งเรียกร้องให้สันนิบาตอาหรับ และองค์กรระหว่างประเทศ ให้เร่งหามาตรการเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์อันเลวร้ายนี้โดยเร็ว แต่นายจิฮด แม็กดิสซี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศซีเรีย ออกมากล่าวปฏิเสธ และตอบโต้ทันขวัญว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการปะทะระหว่างทหารของรัฐบาล กับนักรบของกองกำลังติดอาวุธเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) พร้อมด้วยนายโคฟี อันนัน ทูตพิเศษของยูเอ็น และสันนิบาตอาหรับ จะออกเดินทางไปยังรัสเซีย และจีน เพื่อกดดันให้ทั้งสองชาติ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยอมให้การสนับสนุนมาตรการขั้นรุนแรงของยูเอ็นต่อซีเรีย..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น