นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เด็กไทยมีความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ยังขาดเรื่องของความสามารถในการเข้าถึงตลาดเนื่องจากตลาดในประเทศไทยเป็นเพียงตลาดเล็ก ๆ เมื่อจะก้าวไปทำตลาดขนาดใหญ่ เด็กไทยวันนี้ซึ่งวันข้างหน้าจะกลายเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ยังขาดเกี่ยวกับประสบ การณ์ในการทำตลาดกว้าง ๆ เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วไป “จุดเด่นของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ การมีความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการผสมผสานนำอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาเชื่อมต่อการใช้งานได้ดี ขณะที่จุดอ่อนอยู่ที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยยังมีประสบการณ์ในการเข้าสู่การทำตลาดขนาดใหญ่ ๆ น้อย ซึ่งเรื่องของการใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยไม่มั่นใจเพราะยังไม่มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง ทำให้เกิดการลอกเลียนแบบทางความคิด ดังนั้นทางแก้ไขหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเคร่งครัดในการใช้กฎหมายลิขสิทธิ์” ส่วนโอกาสของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยที่ “กรรมการผู้จัดการ ไมโครซอฟท์” เห็นว่าเป็นช่องทางที่สดใสของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทย คือ การเปิด “วินโดวส์สโตร์” หรือ ร้านค้าออนไลน์ที่นักพัฒนาสามารถนำแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่พัฒนาบนวินโดวส์ 8 มาวางขายได้ โดยจะมาพร้อมกับการเปิดตัว “วินโดวส์ 8” ซึ่งจะทำให้การทำตลาดซื้อขายซอฟต์แวร์เป็นไปได้ง่าย รวมทั้งข้ามผ่านในเรื่องของวัฒนธรรมและภาษาได้ ตัวอย่างเช่น ประเทศยูเครน มียอดขายซอฟต์แวร์ผ่านตลาดออนไลน์สูงมาก เพราะเมื่อพัฒนาซอฟต์แวร์แล้วนักพัฒนาซอฟต์แวร์มีการนำผลงานเสนอขายผ่านทางตลาดออนไลน์และสามารถระบุประเทศที่อยากขายได้ ทั้งยังช่วยให้รู้ผลตอบรับทันที โดยไม่ต้องนำเงินทุนก้อนใหญ่ไปเปิดบริษัทขายโดยที่ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ “วันนี้การนำเสนอซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเข้าสู่ตลาดไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนสูง เพราะทิศทางของการขายซอฟต์แวร์ผ่านตลาดออนไลน์เป็นโอกาสที่ดีของนักพัฒนาซอฟต์ แวร์ ที่สำคัญการขายซอฟต์แวร์ผ่านตลาดออนไลน์ทำให้นักพัฒนาได้รู้ผลตอบรับทันที และนำข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการได้ทันเวลา” นายพีรธน กล่าวว่า วินโดวส์ 8 ไม่ได้ใช้งานเฉพาะในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แต่ใช้งานในคอมพิวเตอร์พีซี โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก และแท็บเล็ต รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เบื้องต้นคาดว่าปริมาณการใช้งานวินโดวส์ 8 บนอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ในประเทศไทยต่อปีจะอยู่ที่ 6-7 ล้านเครื่อง แต่ทั่วโลกจะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านเครื่อง จึงเป็นโอกาสของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยที่เมื่อก้าวเข้าตลาดก่อนย่อมมีโอกาสก่อนคนอื่น ซึ่งประเภทของซอฟต์แวร์ที่จะวางขายในวินโดวส์สโตร์แบ่งเป็น 20 ประเภท ขณะนี้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้มากและมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่า 1,000 คนสนใจจะนำซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเข้าร่วมวางขายในวินโดวส์สโตร์ นายพีรธน ย้ำว่า นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยวันนี้มีความโดดเด่นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์มาก แต่จุดอ่อนที่ต้องเร่งแก้ไขคือเรื่องของภาษาอังกฤษที่ต้องทำให้สื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้ทั้งนี้ ในงาน “อิมเมจิ้น คัพ 2012” รอบชิงชนะเลิศระดับโลก ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ยังมีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนวินโดวส์ 8 อีกด้วย โดยระหว่างการสัมมนาไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่าวินโดวส์ 8 พร้อมแล้วที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิตในต้นเดือนส.ค.นี้ และพร้อมที่จะสามารถวางขายผลิตภัณฑ์วินโดวส์ 8 ได้ในปลายเดือนต.ค.ปีนี้เช่นกัน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยที่จะเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ บน วินโดวส์ 8 และนำแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาเหล่านี้มาวางขายบนวินโดวส์สโตร์ได้ หากไมโครซอฟท์มีการเปิดวินโดวส์สโตร์ขึ้นจริง
www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น