วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ห่วงใยไกลบ้าน การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างแดน

ผู้หญิงไทยที่ไปแต่งงานกับคนต่างชาติและไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศทั่วโลก คนเหล่านี้มีจำนวนไม่ถึง 2% ที่ประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่ดีดังที่วาดฝันไว้ ส่วนที่เหลือ แค่พออยู่ได้ หรือถึงขั้นอยู่อย่างยากลำบาก ซึ่งนี่เป็นกลุ่มคนไทยที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญ เพราะยังไม่มีหน่วยงานใดดูแลรับผิดชอบโดยตรง” ...นี่เป็นการระบุของนาย สุรพล เพชรวรา อธิบดีกรมการกงสุล กรมซึ่งเป็นกลไกดูแลคนไทยในต่างแดนร่วมกับสถานทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ตาม โครงการ “ห่วงใยไกลบ้าน” ตามนโยบายการทูตเพื่อประชาชนของกระทรวงการต่างประเทศ โดยโครงการนี้กำลังมีการดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่ง ณ ที่นี้ก็ได้สะท้อนไว้บ้างแล้ว โครงการ “ห่วงใยไกลบ้าน” มีการตั้งเป้าแก้ไขปัญหาทุกเรื่องของคนไทยไกลบ้าน ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการเกิดของสมาชิกใหม่ ปัญหาต่าง ๆ ไปจนถึงเรื่องการส่งอัฐิหรือร่างไร้วิญญาณกลับไทย ทั้งนี้ อธิบดีฯสุรพล แจงถึงโครงการนี้ว่า... เป็นการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างแดน โดยมีการไปพบปะคนไทยในต่างแดน เพื่อรับทราบปัญหาต่าง ๆ และให้คำแนะนำปรึกษาในการแก้ปัญหา เช่น เรื่องข้อกฎหมายทั้งของไทยและของต่างประเทศ หรือประเด็นปัญหาครอบครัวประเด็นต่าง ๆ ซึ่งการจัดกิจกรรมพบปะยังช่วยให้เกิดการมารวมตัวของชุมชนชาวไทยในต่างแดนและภาครัฐ ช่วยสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการจัดกิจกรรมที่ผ่าน ๆ มา เช่นล่าสุดมีการไปพบปะคนไทยที่ไปทำงาน ไปอยู่อาศัย ในประเทศสวีเดน ประเทศเดนมาร์ก และรวมถึงประเทศนอร์เวย์ซึ่งเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศนอร์เวย์คือนาย ธีรกุล นิยม โดยคนไทยที่ไปอยู่ที่นั่นต่างก็รู้สึกดีใจและยินดีมาร่วมพบปะ แม้ว่าต้องเดินทางข้ามคืนมาจากเมืองที่ห่างไกล ต้องเสียค่าเดินทางสูงเกือบแสนบาท ผู้ที่มาเข้าร่วมต่างก็ยินดีที่จะได้พบตัวแทนภาครัฐที่นำโครงการ “ห่วงใยไกลบ้าน” ไปเปิดเวทีรับฟังปัญหา ให้ความรู้ และยังมีการให้บริการต่ออายุหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ด้วย คนไทยเหล่านี้ได้สะท้อนความเป็นอยู่ ทั้งที่ดีและไม่ดี สะท้อนความรู้สึกต่อภาครัฐไทย เรื่องการดูแลคนไทย สำหรับกรมการกงสุล ก็จะมีการชี้แจงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศ ในการที่จะเพิ่มบริการอำนวยความสะดวก การวางมาตรการลดขั้นตอนเพื่อเพิ่มความสะดวก เช่นเรื่องการต่อและการออกหนังสือเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนถึงการรับรองการแปลสำเนาเอกสารหนังสือเดินทาง ในส่วนของเอกอัครราชทูตไทยในแต่ละประเทศ ก็จะได้ชี้แจงยืนยันเกี่ยวกับการดูแลทุกข์สุขของคนไทยในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความสำคัญโดยไม่สามารถจำกัดเวลาได้ โดยชี้แจงให้คนไทยคำนึงถึงเสมอว่าสถานทูตไทยคือบ้านของคนไทย “ปัจจุบัน รัฐบาลก็มีแนวคิดที่จะให้คนไทยในต่างประเทศสามารถต่ออายุบัตรประจำตัวประชาชนที่สถานทูตและสถานกงสุลได้ แทนที่จะต้องเสียเงินเสียเวลาเดินทางกลับไทย ซึ่งมีการลงนามข้อตกลงระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ในการที่กระทรวงมหาดไทยจะโอนอำนาจการต่ออายุบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยในต่างประเทศให้กับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้นอกจากจะทำให้สะดวกแล้ว ยังทำให้คนไทยที่ไปอยู่ในต่างประเทศยังคงมีความผูกพันกับประเทศไทยอีกด้วย” ...อธิบดีกรมการกงสุล ระบุ พร้อมทั้งยังบอกอีกว่า... สำหรับกลุ่มหญิงไทยที่แต่งงานไปอยู่กับชาวต่างชาตินั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศ ทางโครงการ ’ห่วงใยไกลบ้าน“ จะมีการดูแล โดยดำเนินการตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ต้นน้ำ คือเข้าหารากเหง้าปัญหา โดยร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านผู้หญิง เข้าไปในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น เชียงราย, พะเยา ฯลฯ เพื่อให้ข้อมูลผู้หญิงที่ต้องการแต่งงานกับชาวต่างชาติ ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร เมื่อไปแล้วต้องเผชิญกับอะไร โดยเฉพาะปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรม และถ้าเกิดปัญหาจะติดต่อใคร “เราไม่ได้ไปห้าม เพราะเขามีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ เราเพียงแต่ให้ข้อมูล ถ้าอยู่เมืองไทย ก็มีความสุขอย่างนี้ มีความทุกข์อย่างนี้ ถ้าไปต่างประเทศ ก็จะมีความสุข ก็จะมีความทุกข์ไปอีกอย่าง เราไปตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งคนที่เราไปเจอ ต่างก็บอกว่าไม่เคยเห็นกระทรวงการต่างประเทศทำงานคลุกฝุ่นอย่างนี้มาก่อน” กลางน้ำ คือในประเทศที่ไปประสบปัญหา เมื่อผู้หญิงไทยไปประสบปัญหา มักจะเป็นปัญหาสะสมทางจิตใจ และในบางครั้งก็ทางร่างกายด้วย ดังนั้น นอกจากจะจัดทีมไปให้ความรู้ทางกฎหมายแล้ว ก็ยังมีจิตแพทย์ไปให้คำแนะนำด้านสุขภาพจิต ขณะที่ผู้หญิงไทยด้วยกันที่มาร่วมพบปะก็จะช่วยให้ประสบการณ์ตรง ปลายน้ำ คือช่วยส่งตัวกลับไทย ถ้าที่สุดแล้วอยู่ต่อไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องคิดถึงเรื่องการกลับประเทศ ทั้งนี้ ทิ้งท้ายเกี่ยวกับโครงการ ’ห่วงใยไกลบ้าน“ ทางอธิบดีกรมการกงสุล สุรพล เพชรวรา ระบุว่า... “การไปดูแลคนไทยกลุ่มนี้ส่งผลดีต่อประเทศไทยส่วนรวมด้วย ซึ่งสิ่งที่คนไทยกลุ่มนี้ทำเกี่ยวข้องกับหน้าตาของประเทศไทย ผมพยายามพูดทุกแห่งที่ไปว่าที่หน้าผากของพวกท่านทุกคนเขียนคำว่าประเทศไทย ซึ่งการที่ทางประเทศไทยไปช่วยดูแลคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์คนไทยไกลบ้าน ก็จะทำให้คนไทยกลุ่มนี้รู้สึกว่า... ’ต้องช่วยประเทศไทยด้วย!!“.

www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม