รมว.ท่องเที่ยว ยันวิกฤติยุโรปไม่กระทบท่องเที่ยวไทย มั่นใจปี 2558 สามารถทำรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2 ล้านล้านบาทได้ชัวร์ เผยสาเหตุนักท่องเที่ยวนิยมมาไทย ส่วนหนึ่งมาจากนายกรัฐมนตรีช่วยเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาท่องเที่ยวไทย รวมทั้งเดินทางไปประเทศต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นมาก ส่วนปีนี้ตั้งเป้านักท่องเที่ยว 20 กว่าล้านคน โดยในช่วง 6 เดือนแรก มีจำนวนนักท่องเที่ยว 10 กว่าล้านคน ทำรายได้กว่า 4 แสนล้านบาท คาดว่าในครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น น่าจะทำรายได้ถึง 8 แสนกว่าล้านบาท ด้าน ผู้ว่าการท่องเที่ยวฯ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน ให้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.55 นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ยืนยันวิกฤติในยุโรปไม่กระทบการท่องเที่ยวไทย และมั่นใจรายได้การท่องเที่ยวไปถึงเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาทในปี 58 ได้จาก 1.1 ล้านล้านบาทในปี 54 โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศยุโรปใน 11 ประเทศ ไม่ได้ปรับลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น และระบุอีกว่า วิกฤติยุโรปไม่ได้กระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย ส่วนหนึ่งมาจากนายกรัฐมนตรีได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาท่องเที่ยวไทย รวมทั้งเดินทางไปประเทศต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นมาก
ทั้งนี้ เป้าหมายปีนี้ตั้งเป้านักท่องเที่ยว 20 กว่าล้านคน โดยในช่วง 6 เดือนแรก มีจำนวนนักท่องเที่ยว 10 กว่าล้านคน ทำรายได้กว่า 4 แสนล้านบาท คาดว่าในครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น น่าจะทำรายได้ถึง 8 แสนกว่าล้านบาท โดยในปี 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 19.23 ล้านคน และทำรายได้ 7.7 แสนล้านบาท
นายชุมพล กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีมาตรกรกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การให้วันหยุดยาว รวมถึงให้ความสะดวกในการใช้สนามบินสุวรรณภูมิและสร้างความประทับใจในการท่องเที่ยวเมืองไทย และสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นมากขึ้น
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะไม่ได้ลงทุนมาก ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ได้แก่ ศิลปวัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยวของไทยก็ดี โดยทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยดูแลร่วมกัน
ทั้งนี้เป้าหมายที่วางไว้ในปี 2558 ที่ทำรายได้ 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 54 ที่มีรายได้ 1.1 ล้านล้านบาท เป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผล และมีความเป็นไปได้ แต่หากมองเป็นรายปี ขยายจากปี 52 ไปปี 53 เพิ่มขึ้น 13% และปี 54 เติบโต 20%
“ตัวเลขที่เราประมาณการดีมาก สมเหตุสมผล จำนวนนักท่องเที่ยวจาก 19 ล้านคนในปี 54 เราจะเพิ่มเป็น 26 ล้านคนในปี 58 ในอดีตเราเพิ่มกว่า 20% แต่ที่เราประมาณการเพิ่มขึ้นเพียง 7-9% เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นตัวเลขที่ตั้งเป้าไว้มีความเป็นไปได้สูง” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
ทั้งนี้ การสร้างรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวมาจากจำนวนคนที่เข้ามาท่องเที่ยว, ระยะเวลาอยู่นาน และ รายจ่ายต่อวัน ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 4,000 บาทต่อวัน
นายสุรพล เศวตเศรณี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงแผนทำการตลาดด้านท่องเที่ยวสู่เป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท ว่า มีการเตรียมกลยุทธ์ด้านการตลาดให้สอดรับนโยบายเข้าสู่เป้าหมาย โดยตลาดต่างประเทศต้องทำรายได้ 1.4 ล้านล้านบาทในปี 2558 ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องในประเทศ เราจะดูว่าตลาดใดมีความพร้อมทางเศรษฐกิจและนิยมเดินทางมาในประเทศไทย ก็มีการจัดโฟกัสเป้าหมาย เช่น รัสเซีย จีน เกาหลี และออสเตรเลีย เป็นตลาดที่ขนาดตลาดใหญ่ โอกาสเติบโตดี ไม่มีผลกระทบเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาก ก็จะส่งเสริมเรื่องการรับรู้ให้มากขึ้น และดึงหรือนำเสนอเรื่องของกลุ่มที่สนใจเป็นพิเศษ เช่น กอล์ฟ สปา ฮันนีมูน ช็อปปิ้ง ส่วนตลาดที่ต้องรักษาไว้ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น รวมทั้งในยุโรปที่ยังมีหลายประเทศที่เดินทางมาไทยได้ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยบวกมาตลอด โอกาสรักษาตลาดยังมีมาก
นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นขยายกลุ่มเป้าหมายระดับกลางและระดับบนให้มากขึ้น ในอดีตมีนักท่องเที่ยวระดับธรรมดา 47% ระดับกลาง 30% และระดับบน 18% มองว่าจะขยายกลุ่มระดับบนให้ได้สัก 25% ส่วนกลุ่มนิช (เฉพาะ) ฐานก็ไม่เล็กแล้วสำหรับประเทศไทย เช่น กลุ่มกอล์ฟที่เข้ามาประมาณ 5% จาก 19 ล้านคน ที่เดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟในประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น