วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เฮฮา ประสาททหาร

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านพบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์เก็บตกข่าวฮาประสาทหาร ตรงกับวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.หลังจากเกิดเหตุการณ์ “คาร์บอมบ์” หน้าร้านโปรคอมพิวเตอร์ ด้านหลังโรงแรมเก็นติ้ง กลางเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.กอ.รมน.) พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการ กอ.รมน. และ นายทหารระดับสูงของกองทัพบก ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อแก้ไขปัญหาและเยี่ยมผู้บาดเจ็บทันที .....ก่อนจะลงพื้นที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอนของทุกปี ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุได้ปลุกระดมให้สมาชิกสร้างเหตุการณ์ให้มีผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และกระบวนการของรัฐให้มากที่สุด เพราะมีความเชื่อว่า ผู้กระทำความรุนแรงในช่วงพิธีบุญจะได้ขึ้นสวรรค์ ซึ่งเป็นคำสอนที่ผิด ขณะนี้ผู้นำศาสนาอิสลามได้เข้ามาช่วยทำความเข้าใจแล้วว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาภาคใต้เราทราบดีว่า เกิดจากอะไร แต่บางครั้งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด ความจริงต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และต้องช่วยกันอย่าไปโฆษณาให้เครดิตผู้ก่อเหตุ อย่างน้อยไม่ต้องชมเจ้าหน้าที่แต่อย่าตำหนิให้มากนัก ไม่เช่นนั้นคนจะท้อแท้กันหมด” ....ทั้งนี้ข่าวล่าสุดทางกองทัพบกได้ดำเนินการจัดซื้อเครื่องตรวจสารระเบิดไฟโด้ (Fido) เพิ่มเติมจำนวน 4 เครื่อง ในราคาเครื่องละ 2 ล้านบาท ซึ่งผ่านขั้นตอนการทดสอบตามแคตตาล็อกทุกประการ โดยได้รับการรับรองจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรมสรรพาวุธทหารบก ผู้ชำนาญการจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จากเดิมกองทัพบกมีเครื่องตรวจสารระเบิดไฟโด้ ใช้จำนวน 7 เครื่อง แต่เป็นรุ่นเก่า ใช้มานานตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันก็ยังใช้งานอยู่โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหรือ EOD และชุดเฉพาะกิจอโนทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ....การที่จะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ลดความรุนแรงลงนั้น รัฐบาลจะต้องยอมรับความเป็นจริงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนพยายามคิดว่า เป็นเรื่องของการพยายามแบ่งแยกดินแดน ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่สามารถที่จะแบ่งแยกดินแดนได้ แต่เป็นเรื่องของการก่อการร้าย ดังนั้นทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องปรับแผนในการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรที่จะปรับเปลี่ยนหน่วยงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะกำลังคนให้ลดน้อยลง เหลือเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น แล้วให้คนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งมีทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.และภาคประชาชน ที่คนเหล่านี้จะเข้ามาช่วยกันดูแลจัดระเบียบสังคมกันเอง ...

.แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะปกครองในระบอบประชาธิปไตยและประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการเข้ามามีบทบาทต่อการบริหารจัดการการปกครองทุกระดับก็ตาม หน่วยงานของรัฐต้องเข้ามามีส่วนร่วมในบางส่วนตามทฤษฎีการปกครอง หรือ ตามหลักการการปกครองในบางส่วนเท่านั้น เพราะถ้ามากเกินไปจะทำให้เกิดความขัดแย้ง เกิดความไม่เป็นธรรม จนกลายเป็นเงื่อนไขของสถานการณ์ต่อไป.....ดังนั้นใครที่ไม่รู้ หรือ รู้ไม่จริงก็ถอยออกไป จะได้ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเสียที ....หลังจากที่มีข่าวปล่อย ข่าวลือกันมานานว่า การปรับ ครม. “ยิ่งลักษณ์ 3” โดยเฉพาะตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น กระแสข่าวจะหนาหูขึ้นทุกวันว่า ประเทศไทยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (หญิง) คนแรก เสียแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่า คนที่ (จะเข้ามา) และ คนที่ (ให้เข้ามา) คิดอะไร...??? กับกองทัพกันแน่ เพราะหากมองกันในเรื่องของความรู้ ความสามารถทางทหารแล้วคนที่มาใหม่แทบจะไม่มี แต่ที่ แน่ ๆ อ้างว่า มาเพื่อสร้างความสมานฉันท์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่นไม่สะดุด เหตุเพราะไม่มีความรู้เรื่องทางทหาร จึงจำเป็นจะต้องเพิ่มตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมขึ้นมาเพื่อช่วยทำงานแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีชื่อของ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าชิงตำแหน่งนี้.....จะมี รมว.กลาโหม (หญิง) ก็คราวนี้....??? ....ใกล้จะถึงฤดูกาลโยกย้ายนายทหารปลายปีกันแล้ว อยู่ ๆ นายกรัฐมนตรี ได้เรียก “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล พร้อมด้วย พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้ช่วย ผช.ผบ.ทอ. เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยข่าวบอกว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของกองทัพ รวมทั้งติดตามผลงานการดำเนินงานต่าง ๆ ของกองทัพบกและกองทัพอากาศ เพื่อสอบถามผลการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมา และติดตามข้อมูลการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า มีการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปีนี้ด้วย....ช่างบังเอิญว่า ผู้ที่เข้าไปหารือกับนายกรัฐมนตรี คนหนึ่งเป็นแคนดิเดตว่าที่ปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วนอีกคนเป็นแคนดิเดต ว่าที่ ผบ.ทอ. อะไรจะบังเอิญขนาดนี้....??? ....ในการประชุมสภากลาโหมที่ผ่านมา “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล ได้ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ สนับสนุนโครงการปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 พร้อมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้เป็นแนวทาง และต้องการเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีความรัก และหวงแหนในผืนป่าของแผ่นดิน ....ปิดท้ายงานพระราชทานเพลิงศพ พลตรี ประทวน กิตติรัต บิดาของ พลอากาศตรี อนิรุท กิตติรัต เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. 2555 เวลา 17.00 น. ณ เมรุ 1 ฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ.

www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม