วันที่ 25 ก.ค.55 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (24 ก.ค.) เวลา 03.30 น. ตามเวลาในเกาหลีใต้ซึ่งเร็วกว่าเวลาในไทยสองชั่วโมง นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องชื่อดังวง 2PM ของเกาหลีใต้ สัญชาติไทย-อเมริกัน ประสบอุบัติเหตุขับรถชนกับรถจักรยานยนต์ ที่ย่านกังนัม ในกรุงโซล โดยนักร้องดังวัย 24 ปี ถูกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้ 0.056% ซึ่งถือว่าเกินกว่าที่กฎหมายประเทศเกาหลีใต้กำหนดไว้ว่า ผู้มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกิน 0.056% จะถือว่าเข้าข่ายทำผิดกฏหมายเมาแล้วขับและอาจถูกระงับใบอนุญาตขับขี่ สื่อท้องถิ่น เฮรัลด์ บิซ รายงานอ้างผู้อยู่ในเหตุการณ์ว่า "คนเจ็บนอนอยู่บนพื้น มีเลือดไหลออกจากศีรษะ รอรถพยาบาลมาถึง จากนั้น ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโซล คุนคุก ผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าวด้วยว่า คนเจ็บไม่สามารถเอี้ยวตัวได้ และรู้สึกปวดบริเวณไหล่อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตำรวจสถานีกังนัม ท้องที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส คนขี่รถจักรยานยนต์เป็นแผลถลอกฟกช้ำ ไม่มีกระดูกหัก เช่นเดียวกับนักร้องหนุ่มที่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน หลังจากนั้น เจวายพี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ต้นสังกัดของนักร้องดัง ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า เมื่อเวลาประมาณ 2.30น.วันอังคาร นิชคุณร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ กับศิลปินในสังกัดหลังเสร็จสิ้นการซ้อมใหญ่ พวกเขาดื่มเบียร์ราว 2 แก้ว จากนั้นนิชคุนมุ่งหน้ากลับที่พักซึ่งอยู่ในบริเวณอาคารบล็อคเดียวกับร้านอาหาร และประสบอุบัติเหตุชนกับรถจักรยานยนต์ ที่สี่แยกฮักดง ทั้งนิชคุณและบริษัทขออภัยอย่างสุดซึ้ง ที่ขาดความระมัดระวัง และยืนยันว่านิชคุณจะให้ความร่วมมือกับตำรวจ ทั้งนี้ทาง คม ชัด ลึก ได้ติดต่อไปยัง นางเย็นจิต หรเวชกุล คุณแม่ของนายนิชคุณ เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว โดยนางเย็นจิตได้เปิดเผยว่า เมื่อตนได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้น ได้พยายามติดต่อไปหาลูกชายที่ประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงแรกไม่สามารถติดต่อได้ เลยสอบถามเรื่องนี้ไปยังค่ายเจวายต้นสังกัดของลูกชาย ก็ได้รับคำยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส "โดยนิสัยส่วนตัวของน้องคุณไม่ได้เป็นคนที่ดื่มเหล้าเลย คนที่รู้จักน้องคุณเองรู้เรื่องนี้ และโดยปกติเวลาที่ทางบริษัทมีงานปาร์ตี้ น้องคุณจะเป็นคนที่คอยดูแลทุกคนมากกว่า แม่เคยเจอกับผู้บริหารค่ายเจวายพียังชมน้องกับแม่เลยว่าน้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก ไม่เคยหลุดกรอบเลย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่แม่ได้คุยกับทางน้องและทางค่าย น่าจะเกิดจากว่าน้องคุณคิดว่าระยะทางจากที่ร้านไปยังที่พักเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมาก
อีกอย่างน้องคุณคงเหนื่อยจากการทำงานแถมในช่วงตอนเช้ามีงานอีก ทำให้เกิดความประมาทไม่ได้ระมัดระวัง เรื่องครั้งนี้ก็จะเป็นอุทาหรณ์ให้น้องได้เข้าใจมากขึ้น" นางเย็นจิตกล่าว ผู้สื่อข่าวถามถึงสภาพจิตใจของนิชคุณว่าตอนนี้เป็นยังไง นางเย็นจิตผู้เป็นแม่ได้บอกว่าลูกชายค่อนข้างกังวล เพราะเป็นห่วงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลทำร้ายคนอื่นๆ หรือเปล่า โดยเฉพาะคู่กรณีและต้นสังกัด โดยตนได้ให้กำลังใจลูกชายไปแล้วว่าจะต้องตั้งสติให้ได้ และรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น "ตอนที่เกิดเหตุน้องคุณเองมีสติมาก ไม่ได้เมา น้องยังเป็นคนโทรแจ้งความกับตำรวจเองด้วย ซึ่งถ้าน้องคุณเมาจริงๆ ทางตำรวจไม่ปล่อยตัวกลับบ้าน เพราะกฎหายที่เกาหลีเขาค่อนข้างเคร่ง หากยังมีการเมาเขาไม่ปล่อยไปหรอก แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ค่อนข้างรบกวนจิตใจเขาในตอนนี้ ด้วยนิสัยเขาเองเป็นคนขี้กังวล และแคร์ความรู้สึกคนอื่นอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องที่ตัวเขาไปทำให้คนอื่นได้รับความเสียหาย เขาเลยค่อนข้างกังวล ตอนแรกเราเองจะเดินทางเพื่อไปหาเขา แต่เมื่อได้คุยกับเขา ได้คุยกับค่าย แล้วรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร เราก็สบายใจ อีกอย่างแม่เชื่อว่าค่ายเจวายพีจะดูแลน้องคุณอย่างดี"แม่ศิลปินดังกล่าว โดยนางเย็นจิตยังเปิดเผยว่าคนรอบข้าง แฟนคลับทั้งคนไทย เกาหลีใต้ และต่างชาติ ได้ส่งข้อความมาให้กำลังใจนิชคุณเยอะมาก เพราะทุกคนรู้ดีว่านิชคุณทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นมาเยอะ
เรื่องที่เกิดขึ้นเลยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความนิยมของนักร้องหนุ่ม ด้าน เวบบอร์ดของเวบไซต์ soompi ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมใหญ่ของบรรดาสาวกเคป็อปในเอเชีย แสดงความเห็นข่าวนิชคุณเมาแล้วขับกันอย่างหลากหลาย โดยบางส่วนแสดงความผิดหวังอย่างมาก และคาดไม่ถึงที่จะเห็นนิชคุณก่อคดีเมาแล้วขับ ขัดกับภาพลักษณ์เด็กดีของเขามาโดยตลอด บางคนโกรธที่ศิลปินดังในเกาหลีก่อคดีเมาแล้วขับอีกครั้ง และแม้ว่าจะชื่นชอบนิชคุน แต่ก็ต้องการให้เจวายพี และต้นสังกัดอื่นๆ ควรพักงานนักร้องที่ก่อเหตุแทนการทำเพียง ขอโทษ เพราะคนเหล่านี้เป็นแบบอย่างของเยาวชน บ้างก็แสดงความเห็นเข้าข้าง ไม่คิดว่าระดับแอลกอฮอลเพียง 0.056% จะมีผลต่อการขับขี่ บางคนก็มองแบบใจกว้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า นิชคุณก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ทำผิดพลาดกันได้ เช่นเดียวกับคนทั่วไปแบบเราๆ ขณะตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ตัวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เองก็ไม่ได้สวมหมวกกันน็อค ซึ่งก็น่าจะขัดกฎหมายเกาหลีใต้เช่นกัน แต่โชคดีที่เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายมาก มั่นใจว่านิชคุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใคร และจะจดจำเป็นบทเรียน
www.komchadluek.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น