วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สถาบันคึกฤทธิ์ เสวนาเชิงวิชาการวิพากษ์ผลงานเศรษฐกิจรัฐ

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม สถาบันคึกฤทธิ์ จัดเสวนาเชิงวิชาการ หัวข้อ "วิพากษ์ผลงานเศรษฐกิจของรัฐบาล" ผู้เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นายภาณุพงศ์ นิธิประภา คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กก.ผจก.ด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) และนายวีรไท สันติประภพ รองกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ 80 เป็นผู้ดำเนินรายการ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)รัฐบาลชุดนี้เริ่มต้นตั้งแต่หาเสียงในขณะที่อยู่ในภาวะจนตรอกและอยากได้รับการเลือกตั้ง ต่างจากสมัยทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ใช้เวลาคิดนโยบายเป็นเวลานานจนชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลปัจจุบันใช้นโยบายประชานิยมสุดโต่ง หลายคนตกใจมาก อย่างค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท รับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตัน มาเป็นแรงจูงใจ แต่กลายเป็นภาระให้รัฐบาลในเวลาต่อมารัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้งนาปีและนาปรัง ดังนั้น ข้าวตลอดฤดูกาลครึ่งหนึ่งจึงอยู่ในมือรัฐบาล ถ้าปีหน้าผลผลิตข้าวออกมาเพิ่มอีก รัฐบาลจะใช้โกดังที่ไหนเก็บ ได้ข่าวว่ามีเอกชนสร้างโกดังขึ้นมารองรับ คิดค่าเช่า 2,000-3,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ถ้ารัฐบาลระบายข้าวออกมา ราคาข้าวจะตกลงกว่าเดิม แม้ตอนนี้จะพยายามขายข้าวให้กับประเทศต่างๆ เจรจาแบบรัฐบาลกับรัฐบาล แต่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มีระบบจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใสมากขึ้น และอยู่ระหว่างฤดูเก็บเกี่ยว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาไทยอีก จะขายให้เกาหลีเหนือก็กังวลว่าอาจถูกชักดาบ จึงต้องพึ่งพิงเอกชนในการขายข้าวซึ่งเดิมพึ่งพิงเจ้าเดียว แต่ก็เป็นปัญหาไม่สามารถขายข้าวจำนวนล้านๆ ตันได้ รัฐบาลจึงมีภาระค่าดูแลสต๊อกข้าว ค่าตรวจคุณภาพ ส่งผลให้รัฐบาลไม่มีเงินจำนำครั้งต่อไป ต้องกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ผมไปพูดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ก็พูดว่าความสำเร็จของนโยบายจำนำข้าวคือ ราคาขาย ถ้าราคาข้าวรุ่ง เกษตรกรได้ราคาดีถือว่ากระทรวงพาณิชย์ประสบความสำเร็จในการดำเนินนโยบาย เรื่องนี้ต้องดูให้ดี ประการที่หนึ่ง เมื่อราคาสูงขึ้น รายได้จากการส่งออก คือราคาคูณปริมาณ ราคาสูงขึ้น แต่ปริมาณขายได้น้อยลง ทำให้รายได้ลดลง ประการที่สอง ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการมีประมาณ 1 ล้านครัวเรือน แต่ชาวนาทั่วประเทศ 3.7-3.8 ล้านครัวเรือน ชาวนา 1 ล้านคนนี้ คือชาวนาที่มีผลผลิตส่วนเกิน มักมีฐานะดี เราเข้าใจผิดว่าชาวนาส่วนใหญ่เป็นคนจน จากการสำรวจข้อมูล แท้จริงแล้วชาวนาจนหรือไม่ โดยนำรายได้ของชาวนาทุกครัวเรือนมาเรียงวัดตามรายได้ของคนในประเทศ ปรากฏว่ากลุ่มที่รวยที่สุด 4 กลุ่มบน มีชาวนารวมอยู่ 1 ล้านครัวเรือน คือกลุ่มที่มีผลผลิตส่วนเกินขายในตลาด 52% ดังนั้น แม้เราจะสามารถยกระดับราคาได้ แต่ไม่ได้ช่วยชาวนาทั้งหมด

ดังนั้น ผลของรับจำนำข้าว คือ ราคาข้าวสูงขึ้นแต่ส่งออกได้น้อยลง รายได้ชาวนาก็ไม่เพิ่มขึ้น เป็นการช่วยเหลือชาวนาจริงหรือไม่ส่วนเรื่องราคาข้าวควรอยู่ที่ระดับเท่าไรจึงจะเหมาะสม ข้อมูลราคาขายข้าวของรัฐบาลไม่มีการเปิดเผย แต่พอทราบว่ามีการยกเลิกการประมูลข้าว 7-8 แสนตัน เนื่องจากได้ราคาต่ำกว่ารัฐบาลประเมินไว้ ราคาตลาดโลกอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐ แต่รัฐบาลรับซื้อที่ประมาณ 800 เหรียญสหรัฐ การแทรกแซงครั้งนี้ส่งผลให้ขาดทุนกว่าแสนล้านแน่นอน เพราะรัฐบาลมีข้าวเปลือกอยู่ในมือ 15-16 ล้านตัน เป็นครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังมีข้าวเขมรที่แฝงเข้ามาอีก โครงการรับจำนำข้าวในครั้งนี้กำลังจะกลายเป็นโครงการที่ทำลายคุณภาพข้าวไทย ไม่มีการตรวจเข้มเหมือนที่ชาวนานำไปขายให้โรงสี ในระยะต่อไปยังส่งผลถึงปริมาณด้วย มองว่าเป็นความล้มเหลวของนักเศรษฐศาสตร์ที่ไม่สามารถสอนใครได้ว่าไม่ให้คุมราคา เพราะทำให้สินค้าไม่เกิดการแข่งขันขอเสนอให้รัฐบาลจัดการเรื่องการบริหารโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพและต้องให้คนได้รับผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน อยากให้รัฐบาลมีคณะกรรมการที่เป็นอิสระเพื่อดูแลการทำงานหน่วยงานต่างๆ ดูแลเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น และควรค่อยๆ ลดนโยบายประชานิยมลงไป

โดยสรุป การดำเนินการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลยังสอบไม่ผ่าน คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ข้อหนึ่งแรงงานทุกคนไม่ได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากบางคนได้รับมากกว่า มีเพียงแรงงานที่ไร้ฝีมือ แรงงานต่างด้าว ได้รับประโยชน์ ข้อสอง หากหักเรื่องเงินเฟ้อออกไปถือว่าค่าจ้างขั้นต่ำลดลงในรอบ 10 ปี เห็นว่าควรต้องเปลี่ยนแนวคิด ไม่ยึดติดกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท รวมถึงปริญญาตรี 15,000 บาท หากมีความสามารถควรได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่าด้วย เรื่องการประกันสินค้าเกษตร ข้าวกับยางเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวด้านการเมือง รัฐบาลไม่สามารถทำให้ราคาต่ำได้ เพราะเป็นเรื่องของฐานเสียง ดังนั้น ต้องมีการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของข้าวและยางให้ดีขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า ตรงนี้ผมให้ 7 จาก 10 คะแนนกก.ผจก.ด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) การลงทุนเพื่อรองรับเออีซี รวมถึงเชื่อมโยงพม่าเพื่อรองรับท่าเรือทวาย ทั้งยังเรื่องปรับโครงสร้างของประเทศรับน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นผลดี แต่สิ่งที่น่าห่วงคือโครงการเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่เกิดขึ้นในไทย เป็นไปได้ยาก บางโครงการใช้เวลาก่อสร้าง 7-8 ปี ทั้งยังมีปัญหาคอร์รัปชั่น ต้องบริหารจัดการให้ดี และทำให้คอร์รัปชั่นต้องน้อยที่สุด ส่วนนโยบายการควบคุมราคาสินค้า ผมไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่ทางออกของปัญหาเงินเฟ้อ

สิ่งที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือการที่รัฐบาลออกมาตรการคุมราคาอาหารจานเดียว พี่น้องในระดับล่างได้รับผลกระทบโดยตรง ถ้าต้องการควบคุมเงินเฟ้อ ไม่ควรตรึงราคาสินค้า และไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ แต่ควรพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะควบคุมสภาพคล่องของเงินให้มีความเหมาะสม สิ่งที่รัฐบาลควรทำมากที่สุดในเวลานี้ คือการหาแหล่งพลังงาน ทดแทนพลังงานที่อาจหมดลงในอนาคต หากรัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา ควรเจรจานำแหล่งก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยออกมาใช้ รวมถึงเร่งการพัฒนาการเชื่อมมหาสมุทรทั้งมหาสมุทรอินเดีย และทะเลจีนใต้ ผลักดันให้เกิดโครงการท่าเรือทวายโดยเร็ว ผมให้คะแนน 6 เต็ม 10 คะแนนรอง กก.ผจก.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ผ่านมารัฐบาลใช้นโยบายประชานิยมอย่างมาก

และขณะเดียวกันก็ลดการจัดเก็บ ทั้งลดการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ทำให้ฐานภาษีแคบลง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีรายได้น้อยลง สวนทางกับรายจ่ายที่มากขึ้น รวมถึงประเทศไทยยังมีระเบิดเวลาที่เรียกว่า ประกันสังคม มีการเพิ่มการรักษาพยาบาลขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีมาตรการทางการเงินที่ดี ในอีก 20 ปี อาจจะล้มละลายได้ ทั้งรัฐบาลในอดีตยังขาดการลงทุนในด้านของโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะประสบปัญหาเช่นเดียวกับกรีซ ที่มีปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน จนลุกลามเป็นปัญหาของกลุ่มอียู ที่ผ่านมา ประชาชนของกรีซมีการจ่ายภาษีน้อยมาก และมีฐานภาษีที่แคบ รัฐบาลมุ่งเน้นนโยบายประชานิยม โครงสร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่มี เอาแต่เงินในอนาคตมาใช้ จนเกิดปัญหาแทบล้มละลาย ไทยมีสถานการณ์คล้ายกันที่พรรคการเมืองต่างแข่งขันชูประชานิยมเป็นหลักสิ่งที่รัฐบาลยังขาดอยู่นั้นคือเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจน ที่ผ่านมารัฐบาลทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ แต่ขาดนโยบายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งยังขาดการปฏิรูปเศรษฐกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว การปฏิรูประบบราชการที่จะส่งเสริมภาคเอกชน และยังขาดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และการป้องกันคอร์รัปชั่น รวมถึงรัฐบาลยังขาดเรื่องวินัยทางการเงินในการดำเนินนโยบาย ทั้งการขยายเวลารับประกันเงินฝาก การพักหนี้ดีที่ไม่ควรทำ แต่ปัจจุบันรัฐบาลมีโครงการก่อสร้างในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าชมเชย หากให้คะแนนรัฐบาลชุดปัจจุบัน จะให้คะแนน 6 เต็ม 10

www.khaosod.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม