วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สงครามเรื้อรังภาคใต้ไม่จบ

สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ขึ้นกลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกของเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม นับเป็นระเบิดขนาดใหญ่ที่ถูกนำไปติดไว้ในรถยนต์ลูกที่ 5 ของปีนี้ เกิดขึ้นบริเวณหน้าบริษัท โปรคอมพิวเตอร์ แอนด์ โอเอ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ตั้งอยู่ในอาคาร 4 ชั้น 4 คูหากลางเมืองโก-ลก

อานุภาพของแรงระเบิดซึ่งมีส่วนประกอบของแอมโมเนียมไนเตรทผสมน้ำมันดีเซล ที่คนร้ายนำไปประกอบน้ำหนัก 50 กิโลกรัมถูกบรรจุในถังแก๊สหุงต้มรอจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ และนำไปวางไว้ในห้องโดยสารของรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียนปลอม สย 6602 กรุงเทพมหานคร แม้จะไม่สามารถทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตผู้คนได้ แต่ก็ทำให้มัจจุราชสีทะมึนคันดังกล่าวพังยับเยิน รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างๆ ตลอดจนอาคารของบริษัทได้รับความเสียหาย ทั้งยังเกิดเพลิงลุกไหม้อาคารและมีคนติดอยู่ในอาคารจำนวนหนึ่งพยายามหนีตายกันอลหม่านและมีผู้บาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดและสำลักควัน 8 คน

ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังไม่สรุปว่าคนร้ายต้องการก่อเหตุระเบิดด้วยจุดประสงค์ใด แต่การจุดระเบิดให้ทำงานในช่วงเช้าตรู่ ทำให้ก่อความสูญเสียไม่ร้ายแรงนัก หรือเป็นความผิดพลาดจนระเบิดทำงานก่อนเวลา หรือต้องการที่จะดักสังหารตำรวจสายตรวจที่ขับรถกระบะผ่านมาในช่วง 6 โมงเช้า ก่อนที่การสอบสวนจะตกผลึกสอบวัตถุพยานแวดล้อมต่างๆ สอบปากคำพยานบุคคล และกล้องวงจรปิด ว่าเป้าหมายของเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้อยู่ที่ธนาคาร เฉกเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นบริเวณธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลาม ของ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม คืนปล่อยผีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปี 2547 ถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น 11,754 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 5,000 คน บาดเจ็บ 9,000 คน ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2550 แนวโน้มความรุนแรงของเหตุการณ์ลดลง แต่เมื่อเปรียบเทียบแต่ละเดือนพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังคงที่และไม่ลดลง เกิดระเบิดในลักษณะ "คาร์บอมบ์" มาแล้ว 30 ครั้ง แยกเป็น จ.ปัตตานี 3 ครั้ง จ.ยะลา 8 ครั้ง จ.นราธิวาส 19 ครั้ง และ อ.หาดใหญ่ 1 ครั้ง และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ที่ผ่านการฝึกจรยุทธ์มาจากต่างประเทศกำลังร้อนวิชาเพื่อสร้างผลงานแทนคนรุ่นเก่าที่ถูกกวาดล้างและหลบหนีอยู่

ค่อนข้างชัดเจนว่าปมไฟใต้ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของอุดมการณ์หรือการแบ่งแยกดินแดน แต่ปัจจุบันความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวเนื่องไปถึงอาวุธสงคราม ยาเสพติด ของเถื่อน และฟอกเงิน การเปิดเกมรุกของรัฐบาลยิ่งต้องเผชิญหน้ากับการตอบโต้ของกลุ่มแนวร่วมที่มุ่งทำร้ายเศรษฐกิจในพื้นที่ รัฐบาลจึงต้องมีแผนการการพิทักษ์รักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องเพราะหากปล่อยให้ประชาชนต้องเป็นเหยื่อของการแก้ปัญหา ย่อมหมายถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหานั่นเอง



www.komchadluek.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม