วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นวดไทยรายได้ดีในอิตาลี แต่เสี่ยง

“งานแต่ละวัน ไหนจะกลิ่นตัวลูกค้า ไหนจะความจุกจิกจู้จี้ ไหนจะความเหนื่อยล้า แต่ก็ต้องทน”

วรรณเอ่ยพลางจิบไวน์บางเบา เสียงเธอแม้จะแหบพร่า แต่ก็ฉายชัดถึงความขมขื่นของชีวิตที่ผ่านมา เธออายุ 42 ปี ยึดอาชีพนวดในโรม มากว่า 4 ปีแล้ว

เราเจอกันที่ร้านกินดื่มสวีต ไลฟ์ คาเฟ่ อยู่ริมถนนเวเนโต อันเป็นถนนย่านกลางเมืองโรม หากเทียบกรุงเทพมหานคร อาจได้แก่ย่านถนนสีลม

เส้นทางนวดของวรรณ เริ่มจากเป็นสาวเมืองขอนแก่น แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย แม้จะได้ทายาทเป็นผู้ชาย 1 คน แต่ความอบอุ่นในครอบครัวหามีไม่ เพราะคู่ชีวิตเจ้าชู้ และไม่มีความรับผิดชอบใดๆต่อครอบครัวเลย

 

เธอพยายามหางานทำและดิ้นรนเพื่อลูก แต่แรงฝันที่ลงไปแต่ละก้าวของชีวิตหาได้พบกับความหอมหวานแต่อย่างใด เมื่อญาติๆแนะนำให้แต่งงานกับชาวอิตาเลียน เพื่อหาแสงสว่างชีวิตใหม่ เธอจึงตัดสินใจอย่างไม่ยากเย็นนัก

อิตาลีเป็นขุมทองในความฝัน แต่ความเป็นจริงคนละเรื่องกัน

ครั้นมาอยู่อิตาลี เริ่มแรกที่เมืองมิลาน เธอแยกทางกับสามีชาวอิตาเลียน เมื่อไม่มีค่าช่วยเหลือใดๆ เธอก็ต้องหาเลี้ยงตัวเอง พร้อมทั้งครอบครัวในประเทศไทยด้วยอาชีพนวด ปัจจุบันเธอย้ายมานวดอยู่ในกรุงโรม มีรายได้เดือนละประมาณ 700–800 ยูโร หรือประมาณ 28,000–32,000 บาท

ถ้าเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ยอดอาจพุ่งขึ้นเป็นเดือนละ 1,000 ยูโร (40,000 บาท) หรือมากกว่านั้น รายได้นั้นขึ้นอยู่กับค่าชั่วโมงที่ทำงานแต่ละวัน ค่าเหนื่อยของวรรณดูเหมือนมาก แต่ถ้าเมื่อหักค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ก็เหลือเก็บเดือนละไม่มากนัก ถึงกระนั้นเธอบอกว่า ต้องส่งให้ทางบ้าน ซึ่งหมายถึงลูกชายที่เรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย และครอบครัวปีละประมาณ 3,000 ยูโร

“ปีหนึ่งหนูให้ครั้งเดียว ให้ลูกบริหารจัดการเอาเอง เขาจะได้โต และรู้จักการบริหารและใช้จ่ายเงิน” วรรณเอ่ย พลางยิ้มอย่างภูมิใจ

เมื่อถามว่า นวดไทยมักมีคนมองว่ามีอะไรแอบแฝง เธอเหมือนชินกับคำถาม จึงพรายยิ้มออกมาก่อนตอบว่า “การนวดขึ้นอยู่กับหมอ ถ้าไม่อย่างเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไร” ถ้าลูกค้าเซ้าซี้มากๆ “ก็ออกจากห้องไปเลย ไปบอกเจ้าของร้าน ก่อนออกก็ขอโทษเขาก่อนว่าเราทำไม่ได้ เราทำอย่างนี้ลูกค้าบางคนก็จะโวยวาย ขณะที่บางคนก็พูดดีกับเรา เพราะว่าเขามีความผิด ปัญหาแต่ละวันมีมากมาย ทำให้เราต้องอดทนมากๆ เราไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนเขาเก็บกดอะไรมาบ้าง”

คำอธิบายว่า ไม่มีอย่างอื่นนอกจากนวด วรรณบอกว่า เป็นเรื่องยากเหมือนกัน เพราะลูกค้ามักอ้างว่า พวกเขาไปเที่ยวเมืองไทยมาแล้ว

เมืองไทยมีบริการทุกอย่าง ทำไมร้านนวดไทยในอิตาลีจึงจะไม่มี

“เราก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า เมืองไทยคือเมืองไทย ที่นี่ไม่ใช่ เราเองก็เสียใจเหมือนกัน ที่คนคิดว่าต้องมีอะไรแบบนั้นไปเสียหมด ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ คนทำงานนวดที่นี่ต้องใจเย็น รอบคอบ ไม่งั้นทำงานไม่ได้” วรรณสรุป ก่อนขอตัวกลับบ้าน ซึ่งอยู่ชานกรุงโรม

 

จากประสบการณ์ตระเวนสอบถามหญิงไทยที่ทำงานนวด ทั้งในกรุงโรม มิลาน และเมืองวิเชนซา ของ “สกู๊ปพิเศษหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” พบว่า หมอนวดไทยในอิตาลีมีอยู่ 3 ระดับ ระดับสูงอยู่ในสปา อย่างสปาชื่อ ไทย ซี มีอาคารขนาดใหญ่เป็นเอกเทศ อยู่ในสถานที่วิวทิวทัศน์สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองวิเชนซา เหนือกรุงโรมขึ้นไป พนักงานมีรายได้เดือนละประมาณ 850 ยูโร ค่าที่พักฟรี แต่อาหารจ่ายเอง

ตุ๊กตา เข้ามาทำงานในสปาแห่งนี้ 4 ปีแล้ว ให้ข้อมูลว่า แม้เงินเดือนจะไม่มากนัก แต่อาศัยความรู้ทางการเพาะปลูกเดิม เธอจึงร่วมกับเพื่อนๆ ปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเอง ประกอบกับวันหยุดก็ล้าเกินที่จะออกไปเที่ยว แต่ละเดือนจึงมีเงินเหลือเก็บประมาณ 600 ยูโร หรือประมาณ 24,000 บาท

ระดับกลาง เป็นร้านนวดเล็กๆเหมือนห้องแถว พนักงานมีรายได้ มากกว่า คือประมาณ 800 ถึง 1,200 ยูโรต่อเดือน สาเหตุที่ได้มากกว่าสปาระดับหรู มาจากเจ้าของร้านอยู่ใกล้ชิดกับพนักงาน มีการถ้อยที

ถ้อยอาศัยกัน ระเบียบไม่มีมากมายนัก พนักงานส่วนใหญ่เป็นแม่บ้าน อย่างวรรณ สาวขอนแก่น ที่ทำงานอยู่ในกรุงโรม ก็อยู่ในระดับกลางนี้

ระดับล่าง เป็นพนักงานนวดที่อยู่ในตึก ประเภทนี้อยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ส่วนหนึ่งแต่งงานกับชาวอิตาเลียน เข้ามาแล้วหนีมาทำงาน หรือไม่ก็อยู่ในอิตาลีอย่างผิดกฎหมาย กลุ่มนี้รายได้ไม่แน่นอน อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกจับ และบางแห่งยังมีการบริการพิเศษแอบแฝงเข้ามาด้วย

สำหรับเส้นทางหมอนวดไทยในอิตาลีเป็นอย่างไรนั้น คำตอบคือ อันดับ 1 คือการแต่งงานกับชาวอิตาเลียน การแต่งงานมีทั้งถูกต้องตามกฎหมาย เป็นไปตามทำนองคลองธรรม และแต่งแบบจัดฉากเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อเดินทางเข้าอิตาลีแล้วก็หางานทำ

 

การแต่งงานชนิดตบตาเจ้าหน้าที่นี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งของทางการไทยให้ข้อมูลว่า มีนายหน้าทำอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ผู้ประกอบอาชีพนี้สามีเป็นชาวอิตาเลียน ภรรยาเป็นชาวร้อยเอ็ด ฝ่ายชายทำหน้าที่หาชายชาวอิตาเลียน ฝ่ายหญิงทำหน้าที่หาหญิงไทยไปแต่งงาน โดยคิดราคาคู่ละ 50,000 บาท

“ไม่ต้องทำอะไรเลย เขาแค่ทำเอกสารให้เท่านั้น การเดินเรื่องต่างๆ ฝ่ายหญิงและชายเดินเรื่องเอง แต่เขาก็ทำได้และมีลูกค้าถูกหลอกไปไม่น้อย” เจ้าหน้าที่ไทยในอิตาลีบอก
สามีภรรยาคู่นี้ปัจจุบันทางการอิตาลีสั่งห้ามเข้าประเทศไปเรียบร้อยแล้ว

สปาและร้านนวดแผนไทยในอิตาลี มีทั้งในกรุงโรม มิลาน วิเชนซา และมีกระจัดกระจายอยู่เมืองอื่นๆบ้าง ทำไมการนวดต้องเป็นแผนไทยและต้องคนไทยด้วย ในเมื่อทุกชาติก็สามารถเรียนรู้กันได้ เรื่องนี้จากการพูดคุยกับหญิงไทยที่เข้าไปประกอบอาชีพนวดได้คำตอบทำนองเดียวกันว่า คนไทยมีความอ่อนน้อม ถ่อมตน การบริการเป็นไปอย่างนุ่มนวล เป็นมิตรกับลูกค้า ชาติอื่นๆที่เข้าไปประกอบอาชีพนวดในอิตาลี แม้หน้าตาจะคล้ายคนไทยอย่างฟิลิปปินส์ ปรากฏว่า ถึงที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ความต้องการของลูกค้า เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นทำงานตามเวลา ไม่มีความยืดหยุ่น ความนุ่มนวล และไม่มีชีวิตชีวา

อาชีพนวดในอิตาลี ปัจจุบันเจ้าของกิจการเป็นชาวอิตาเลียน ส่วนผู้จัดการ ผู้ดูแลร้านเป็นคนไทย กฎเหล็กข้อหนึ่งของกิจการนวดคือ ห้ามค้าประเวณี หรือเกินเลยทางเพศอย่างเด็ดขาด ถ้าใครฝ่าฝืนแล้วถูกจับได้จะมีความผิดทั้งพนักงานนวดและเจ้าของกิจการ

อาจเพราะคนไทยใจดี เมื่อปีที่ผ่านมา พนักงานสาวในสปามีชื่อแห่งหนึ่งอาจเพราะประทับใจลูกค้ามีแถมให้ เป็นผลให้เธอต้องกลับประเทศไทย ส่วนเจ้าของกิจการสู้คดีความกับทางการสืบไป

อาชีพพนักงานนวดในต่างแดน แม้จะรายได้ดีเพียงใด แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงและภาษีแสนแพง กว่าจะได้เงินส่งทางบ้านเหนื่อยสายเอ็นแทบขาด

ถึงกระนั้น เมื่อถามถึงการเงินส่งกลับบ้าน ก็มีเสียงว่า “ไม่เป็นไร หนูอยากให้พ่อแม่มีความสุข”.

www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม