วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บทเรียน ศึกระหว่าง แกรมมี่และทรูวิชั่นส์

ในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีกระแสข่าวไหนจะฮิตติดชาร์ตเท่ากับกระแสข้อพิพาทระหว่างแกรมมี่และทรูวิชั่นส์ เพราะตลอด 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ก็เริ่มมีปัญหาจอดำเกิดขึ้น หลักๆ โดนเต็มๆ ก็ลูกค้าของทรูวิชั่นส์ เนื่องจากแกรมมี่ไม่สามารถปล่อยสัญญาณถ่ายทอดสดให้กับทางทรูวิชั่นส์ได้ จนกว่าจะได้รับการอนูญาตจากยูฟ่า
เป็นเรื่องเป็นราวโยนกันไปโยนกันมาเกือบสัปดาห์ และเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรื่องก็มีความกระจ่างชัดขึ้น เมื่อแกรมมี่โชว์หนังสือชี้แจงจากยูฟ่าว่าปฏิเสธให้ให้ทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดการแข่งขันยูโร 2012 เนื่องจากทรูวิชั่นส์ไม่ได้อยู่ในระบบฟรีทีวี
และปัจจุบันยูฟ่าก็มีความพึงพอใจกับการถ่ายทอดผ่านช่อง 3, 5 และ 9 ซึ่งเป็นการถ่ายทอดโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบอนาล็อก (terrestrial analog signal) จึงไม่มีเหตุผลที่จะอนุญาตให้ทรูวิชั่นส์ซึ่งมีสถานะเพย์ทีวี หรือการเป็นโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกให้สิทธิ์ในการถ่ายทอดได้อีก
หลังจากมีหนังสือยืนยันออกมาชัดเจนว่ายูฟ่าไม่อนุญาตให้ทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ค่ายแกรมมี่พยายามออกมาแสดงตัวว่าก่อนหน้านี้ได้ให้ความช่วยเหลือทรูวิชั่นส์อย่างเต็มที่ ด้วยการพยายามอย่างสุดความสามารถในการประสานงานกับทางยูฟ่า เพื่อให้ทรูวิชั่นส์ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสด
ด้านฝั่งทรูวิชั่นส์เองก็ออกมาแถลงข่าวชี้แจงในวันเดียวกัน พร้อมออกมาขอโทษและรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถให้ผู้ชมได้รับชมการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในระบบของทรูวิชั่นส์ได้ และไม่สามารถออกอากาศตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ เนื่องจากเจ้าของลิขสิทธิ์คือยูฟ่า ไม่ให้สิทธิ์ทรูวิชั่นส์ในการออกอากาศ เพราะตีความว่าทรูวิชั่นส์เป็นเพย์ทีวี
งานนี้เลยเศร้ากันไปทั้งผู้ชมและเจ้าของธุรกิจ
แม้ว่าทุกอย่างจะมีความชัดเจน แต่ก็มีปัญหาค้างคาใจใครหลายคนในกรณีที่ว่าแกรมมี่ชี้แจงกับยูฟ่าว่า ทรูวิชั่นส์เป็นทีวีสถานะไหน การถ่ายสดผ่านสัญญาณดาวเทียม ซึ่งบ้านที่กล่องรับสัญญาณของจีเอ็มเอ็มแซท สามารถดูได้ ต่างจากจานดาวเทียมของทรูวิชั่นส์อย่างไร ทำไมยูฟ่าถึงไม่อนุญาต
ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีกลิ่นไม่ค่อยดีเกี่ยวกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ทำให้บรรยากาศอื่นๆ พลอยชะงักงั้นไปด้วย ซึ่งผู้บริหารของจีเอ็มเอ็มแซทก็ออกมายอมรับเองว่าไม่คึกคักอย่างที่คาด แต่ก็ถือว่าเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งความแรงจะมาในช่วงรอบท้ายๆ ของการแข่งขัน
แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ค่ายแกรมมี่หวาดวิตกแต่อย่างใด เพราะยอดการขายกล่องจีเอ็มเอ็มแซทช่วงเดือน พ.ค.จนถึงขณะนี้ ทะลุไปแล้ว 600,000 กล่อง เบ็ดเสร็จรวมยอดขายกล่องจนถึงขณะนี้ก็ปาเข้าไป 700,000-800,000 แสนกล่องแล้ว เป้าหมาย 1 ล้านกล่องเมื่อจบบอลยูโร 2012 ไม่น่าไกลเกินเอื้อม แม้แว่วว่าการได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2012 อาจมีการขาดทุนเล็กน้อย แต่ถ้าเอามาถูๆ ไถๆ กับยอดการขายกล่อง ก็ถือว่ายังมีกำไร
ใครมีกำไรใครขาดทุนไม่รู้แน่ชัด แต่ที่ชัดเลยตอนนี้ก็น่าจะเป็นยอดการขายเสาอากาศ ก้างปลา เพราะมีข่าวออกมาว่าก้างปลาแถวคลองถมขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะคอบอลจริงๆ ยังง้ายยังไงก็ต้องสรรหาวิธีการรับสัญญาณการถ่ายทอดสดให้จงได้
นอกจากเสาอากาศก้างปลาแล้ว ที่ชาร์จแบตมือถือยี่ห้อโนเกียก็สามารถเอามาเสียบต่อสายอากาศด้านหลังทีวีก็ดูได้แล้ว เจ้าของไอเดียดังกล่าวแนะนำไว้ว่า นำสายชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย (หัวสายชาร์จแบบหัวเล็ก หรือรูเล็ก) เสียบเข้ากับช่องต่อสายอากาศด้านหลังทีวี ก็สามารถรับชมสัญญาณช่องฟรีทีวีที่ถ่ายทอดยูโร 2012 ได้แล้ว โดยระดับคุณภาพสัญญาณอยู่ราวๆ 70-80%
ใครไม่เข้าใจก็สามารถเข้าไปดูวิธีการติดตั้งได้ในยูทูป ระยะเวลาในการติดตั้งเป็นตัวอย่างก็อยู่ที่ประมาณ 2 นาทีเศษๆ ได้ผลจริงหรือไม่ อันตรายหรือเปล่า แต่เท่าที่เป็นข่าวเป็นคราวว่าสายชาร์จแบตโนเกียใช้แทนเสาก้างปลาได้ ก็ยังไม่มีข่าวภาพของอันตรายเกิดขึ้น อ่านแล้วใช้วิจารณญาณในการเชื่อก็แล้วกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับการได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ในครั้งนี้ ถ้ามองย้อนกับไป ทุกครั้งที่มีการนำลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลจากยูฟ่ามาถ่ายทอดในเมืองไทย ล้วนมีปัญหาตามมามากมายให้ผู้ได้รับสิทธิ์แก้ไขปัญหา ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนให้ผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลจากต่างประเทศในครั้งต่อไป ได้นำมาปรับใช้เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก.

www.thaipost.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม