รัฐสภาไทยจะกลับมาเปิดสมัยประชุมอีกครั้งก็ราวๆ เดือนสิงหาคม ถึงเวลานั้นความร้อนแรงทางการเมืองจะกลับมาอีกครั้ง เพราะศาลรัฐธรรมนูญน่าจะวินิจฉัยคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้เสร็จสิ้นก่อน
ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาเช่นไร ความขัดแย้งทางการเมืองจะคงดำรงอยู่ ไม่ได้หมายความว่าความขัดแย้งเกิดจากคำวินิจฉัยของศาล แต่ฝ่ายการเมืองที่ต้องการล้างความผิดให้ตัวเองต่างหาก คือ ตัวปัญหาของประเทศ
ความขัดแย้งที่ผ่านมาครั้งแล้วครั้งเล่า รวมไปถึงการเผาบ้านเผาเมือง ก็ล้วนเพื่อช่วยคนโกงให้พ้นผิดเท่านั้น การเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นเพียงข้ออ้างที่ยกขึ้นมาบังหน้า และหลอกล่อมวลชนบางกลุ่มให้เข้าร่วมเท่านั้น
หากศาลวินิจฉัยว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขัดรัฐธรรมนูญ การระดมมวลชนครั้งใหญ่เพื่อปกป้องคนโกงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง และศาลรัฐธรรมนูญจะถูกทำให้เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง แต่จะขัดแย้งรุนแรงแค่ไหนนั้นยังยากที่จะคาดเดา
ในทางกลับกัน หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่มีการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก็ดำเนินต่อไป
แต่ผลการของดำเนินต่อไปนั้น จะส่งผลให้การพิจารณาร่างพระราชบัญัติปรองดองแห่งชาติ เดินหน้าไปด้วย เพราะหนทางล้มล้างรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ได้เปิดกว้างขึ้นแล้วนั่นเอง และจะส่งผลให้กฎหมายปรองดองไม่ขัดรัฐธรรมนูญเพราะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มารองรับ
นั่นก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงอีกเช่นกัน เพราะการล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชนิดที่ว่า กลับดำให้เป็นขาว ไม่เคยทำความผิดใดๆ มาก่อนนั้นเป็นสิ่งที่ประชาชนจำนวนมากรับไม่ได้ ความรุนแรงจึงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตราบเท่าที่เครือข่ายระบอบทักษิณ ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการนิรโทษกรรมให้กับนักโทษและจำเลยคดีคอรัปชั่น
แม้จะมีตัวหน่วงเวลาคือความเห็นต่างกันเองของคนในพรรคเพื่อไทย กลุ่มที่อยู่ในอำนาจต้องการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี คือตัวแทนกลุ่มดังกล่าว พยายามชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป รวมถึงกฎหมายปรองดองที่อาจกลายเป็นเงื่อนไขล้มรัฐบาล ส่วนกลุ่มแกนนำเสื้อแดงต้องการลุยม้วนเดียวจบ เพื่อเอาใจมวลชนเสื้อแดง แต่จุดหมายปลายทางของทั้ง 2 กลุ่มต่างทำเพื่อปกป้องคนโกง จึงเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคตไม่พ้น
หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไปได้ ก็ต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ระหว่างทาง ประเด็นการแก้ไขโดย ส.ส.ร.ร่างทรง จะจุดประเด็นให้มีการคัดค้านเป็นระยะๆ และจะสร้างความขัดแย้งสะสมควบคู่ไปกับการค่อยๆ พิจารณาร่างกฎหมายปรองดองที่จะต้องเสร็จตามหลังรัฐธรรมนูญไปติดๆ
บวกกับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเกิดขึ้นในสมัยประชุมหน้า ในสภาวการณ์ที่แดงทั้งแผ่นดินถูกทำให้เชื่อว่าตัวเองเป็นใหญ่ในแผ่นดิน และคนเสื้อแดงเคยขัดขวางการทำหน้าที่ในสภาของฝ่ายค้านมาแล้วหลายครั้ง ทั้งหมดคืออนาคตอันไม่ไกลของประเทศไทย.
www.thaipost.net
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555
อนาคตของไทย ยังมีความขัดแย้งกันอยู่
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
นายเปรมชัย ใจกว้าง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอิเล็กทรอนิคส์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า กสท ได้พัฒนาการบริการรูปแบบใหม่ &quo...
-
ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา เปิดเผยในการเสวนาประชาชนสัญจรครั้งที่ 11 "ขุมทรัพย์น้ำมันไท...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น