ยอดเด็กนักเรียนเชียงใหม่ ป่วยจากการกินไข่ต้มพุ่ง 462 คน ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 127 คน ตรวจสอบที่มาของไข่ ทราบว่ามีผู้บริจาคไข่แก้บน จำนวน 10,000 ฟอง ให้โรงเรียน 4 แห่ง ขณะที่เด็กเริ่มป่วยไล่ตามกัน
กรณีเมื่อเช้าวันที่ 9 ก.ค.ทางศูนย์วิทยุกู้ภัยเวียงพิงค์ โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เลขที่ 154 หมู่ 4 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีรั้วติดกันกับโรงพยาบาลฯ ว่ามีเด็กนักเรียนของโรงเรียนนับร้อย มีอาการปวดท้องและอาเจียน นอนอยู่ในเรือนพยาบาล จึงได้ระดมรถกู้ชีพทั้งของโรงพยาบาลเองและโรงพยาบาลใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือเด็กทันที โดยได้รีบนำเด็กนักเรียนที่อาการหนัก อาเจียนและปวดท้องกว่า 60 คน นำส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ และอีก 20 คน นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งทีมงานเข้าช่วยเหลือและในเบื้องต้นทราบว่าเกิดจากการกินอาหารมื้อเย็น มีแกงเผ็ดไก่ใส่มะเขือ และไข่ต้ม ที่มีผู้นำมาบริจาคให้เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บไข่และแกงเผ็ดไปตรวจว่าเป็นสาเหตุหรือไม่ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งคืนวันที่ 9 ก.ค.จนถึงเช้าวันที่ 10 ก.ค.มีเด็กนักเรียนที่ได้กินไข่ต้มและแกงเผ็ดไก่ได้ทยอยกันล้มป่วยลงเรื่อย ทางแพทย์พยาบาลต้องระดมกำลังกันช่วยเหลือตลอด โดยที่ป่วยหนักได้นำส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ จนไม่สามารถรองรับไหว บางส่วนต้องนำไว้ที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียนที่จัดเป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวนยอดเด็กนักเรียนที่ป่วยจนถึงเวลา 12.00 น.ยอดนิ่งอยู่ที่ 462 คน และที่อาการดีขึ้นสามารถออกไปรักษาตัวที่ห้องพักได้ มีจำนวน 291 คน นอนโรงพยาบาลต่างๆ 127 คน นอนรักษาตัวในหอประชุมโรงเรียน 44 คน รวมยอดผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษา 171 คน จากจำนวนผู้ที่กินไข่ต้มไปจำนวน 885 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ บรรยากาศภายในโรงเรียนมีบรรดาผู้ปกครองที่นักเรียนทั้งหมด ซึ่งเป็นชนเผ่าที่สูงตามดอยต่างๆ ในภาคเหนือจำนวนมากลงจากดอยสูงเข้ามาเยี่ยมบุตรหลานด้วยความเป็นห่วง ส่วนบรรยากาศภายในหอประชุม เด็กๆ ยังนอนรักษาตัวอยู่จนเต็มพื้นที่ห้อง โดยตลอดเวลาจะมีรถพยาบาลวิ่งเข้าออกเพื่อนำเด็กที่อาการหนักส่งตามโรงพยาบาลต่างๆ หากพบว่ามีเตียงที่ว่างลง โดยได้มีการติดประกาศรายชื่อของเด็กนักเรียนที่ป่วยและต้องไปนอนตามโรงพยาบาล 8 แห่งของเชียงใหม่ เพื่อให้ทางญาติตามติดไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลได้
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 10 ก.ค. ทาง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการของเด็กนักเรียนที่ยังนอนป่วยอยู่ด้วยความห่วงใย โดยมี นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น อาการป่วยของเด็กนักเรียนเป็นโรคบิด หรือติดเชื้อซาโมเดรา โดยในเบื้องต้นน่าจะมาจากไข่ต้มที่มีผู้นำมาบริจาคให้กับทางโรงเรียน โดยผู้บริจาคได้ทราบเรื่องแล้วก็ได้มาติดต่อพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยบอกว่าเป็นไข่ไก่ที่นำไปแก้บนจำนวน 10,000 ฟอง หลังจากนั้นอีกวันก็ได้นำมามอบให้โรงเรียนและสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า มีโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ โรงเรียนสอนคนหูหนวกเชียงใหม่ และศูนย์เด็กอ่อนบ้านเวียงพิงค์ โดยทางโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ฯ หลังจากเด็กกินเข้าไปมีอาการป่วยจำนวนมาก และทราบว่าที่โรงเรียนสอนคนตาบอด เด็กๆ เริ่มมีอาการ ทางสาธารณสุขฯ ได้ระดมแพทย์เข้าไปดูแลช่วยเหลือแล้ว แต่อีก 2 แห่งยังไม่มีการรายงาน แต่ได้เตรียมเข้าไปเฝ้าระวังแล้ว
ม.ล.ปนัดดา ได้เดินเยี่ยมเด็กและถามอาการ พร้อมให้กำลังใจแพทย์พยาบาลที่ปักหลักดูแลเด็กทั้งคืนทั้งวัน จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าใหญ่มากที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ โดยบอกว่าทางนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ และทุกภาคส่วนในเชียงใหม่มีความห่วงใยลูกหลานเยาวชนที่เจ็บป่วยในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการบริโภคอาหาร ได้วิเคราะห์ศึกษาแล้วทราบว่าเป็นเชื้อที่ชื่อว่าซาโมเดรา ที่คิดว่ามาพร้อมกับอาหารที่ได้รับประทานเข้าไปในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จึงล้มป่วยจำนวนมาก ในขณะนี้ทางนายแพทย์สาธารณสุขได้ดูแล ทั้งที่นอนอยู่โรงพยาบาลและโรงเรียน แต่สิ่งที่สำคัญก็ถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจเราว่าอยากจะขอให้ทางโรงเรียนที่ดูแลลูกหลานเยาวชนให้ดูแลเรื่องอาหาร ไม่ว่าจะทำเองหรือรับบริจาคเข้ามา ทั้งผู้ที่นำอาหารมาบริจาคมอบให้เองก็เกิดจากความปรารถนาดีไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ดังนั้นจะต้องมีการตั้งกรอบไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น มาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งในเรื่องนี้ทางจังหวัดจะได้นำไปเป็นบรรทัดฐานในเรื่องการจัดเตรียมอาหาร ให้กับเด็กนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ 25 อำเภอของเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าตามรอบๆ โรงเรียน รวมทั้งผู้ที่นำอาหารมาบริจาคให้ ก็ขอให้ร่วมกันระมัดระวังในเรื่องอาหาร เหมือนเช่นไข่ที่นำมามอบให้ทราบว่ามีการนำเก็บไว้หลายวันก่อนที่จะมอบให้กับทางโรงเรียน ซึ่งอาจจะเป็นด้วยอากาศและจำนวนไข่หลายพันฟอง อาจจะเกิดปัญหา จึงขอฝากครูอาจารย์ทุกโรงเรียนให้ดูแลในเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตามโรงเรียนที่ได้รับมอบไข่ได้ให้ทางสาธารณสุขเร่งไปสกัดกั้นไว้แล้ว จึงขอฝากเตือนไปยังผู้ใจบุญที่ต้องการบริจาคอาหารให้กับทางเด็กนักเรียน ก็ขอให้มีความรอบคอบในเรื่องนี้ด้วย จะได้ไม่ต้องมาวิตกกังวลภายหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น