นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวว่า จากกรณีที่ในพื้นที่ชายหาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ได้เกิดพายุฝนและคลื่นลมมรสุมในทะเลกัดเซาะชายฝั่งบ่อยครั้ง ส่งผลให้ต้นสนที่ขึ้นตามแนวชายหาดหักโค่นล้มระเนระนาด ล้มทับโต๊ะเก้าอี้ที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร นำมาตั้งบริการนักท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เกิดเป็นประจำทุกปี ทำให้ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.ตรัง กังวลว่า หากต้นสนที่โค่นล้มลงมาล้มทับนักท่องเที่ยว จนทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิต แล้วยังล้มทับบ้านเรือนรวมทั้งรถยนต์และทรัพย์สินอื่นๆ จนได้รับความเสียหาย ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นทางผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.ตรัง จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลโดยเร่งด่วน แม้ว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมก็ตาม แต่ทุกฝ่ายควรต้องมาหารือร่วมกัน เพราะนับวันปัญหาดังกล่าว จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่เร่งรีบหามาตรการป้องกัน อย่างไรก็ตามแม้ว่า การสร้างเขื่อนตามแนวชายหาดปากเมงทั้งหมด จะส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเล่นน้ำในทะเลได้ก็ตาม แต่หากไม่เร่งสร้างโดยเร่งด่วนเชื่อแน่ว่า ในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า ก็จะไม่มีต้นสนหลงเหลืออยู่คู่กับชายหาดปากเมงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง และยังรวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ความรุนแรงของคลื่นยังมีไม่มาก จึงทำให้น้ำทะเลกัดเซาะห่างจากชายฝั่งประมาณ 50 เมตร แต่ปัจจุบันน้ำทะเลได้กัดเซาะชายฝั่งลึกเข้ามากินพื้นที่ด้านในถึง 50 เมตร ทำให้แต่ละปีเมื่อเกิดคลื่นลมมรสุมในทะเล ชายหาดแห่งนี้ต้องสูญเสียพื้นที่ไปจำนวนมาก นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมา อบต.ไม้ฝาด ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการตัดแต่งกิ่งต้นสนไม่ให้โค่นล้มลงมาได้ ทั้งที่ทราบดีว่าเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวและทรัพย์สิน เพราะเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ถ้าหากเข้าไปดำเนินการใดๆก็อาจถูกดำเนินคดีได้ จึงต้องทำเรื่องขออนุญาตไปยังระดับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเห็นว่าล่าช้ากว่าจะดำเนินการได้ต้นสนก็ล้มทับบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายแล้ว ขณะที่นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ระบุว่า ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดปากเมง มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ซึ่งที่ผ่านมา ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามหามาตรการป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเล โดยการสร้างเขื่อนป้องกันบริเวณจาก รร.อนันตรารีสอร์ท จนมาถึงชายหาดปากเมงบางส่วนประมาณ 3 กม. ซึ่งก็สามารถป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ ส่วนต้นสนที่เสื่อมสภาพและเสี่ยงต่อการหักโค่นล้มนั้น ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบอยู่แล้ว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะรุนแรงเช่นนี้ แต่หากชาวบ้านแจ้งมาก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตัดทำลายทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวและทรัพย์สิน ส่วนการที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.ตรัง เรียกร้องให้สร้างเขื่อนบริเวณหน้าชายหาดนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าสามารถทำได้ และสามารถช่วยป้องกันคลื่นคลื่นลมมรสุมได้เป็นอย่างดี แต่อาจทำให้เสียทัศนียภาพในการท่องเที่ยวไป
breakingnews.nationchannel.com
วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ตรัง เรียกร้องสร้างเขื่อนกันกัดเซาะของน้ำทะเล หวั่นนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
นายเปรมชัย ใจกว้าง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอิเล็กทรอนิคส์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า กสท ได้พัฒนาการบริการรูปแบบใหม่ &quo...
-
ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา เปิดเผยในการเสวนาประชาชนสัญจรครั้งที่ 11 "ขุมทรัพย์น้ำมันไท...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น