เมื่อเวลา 15.10 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมาที่ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ชีฟเดค (Seafdec ) อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการขุดลอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ อธิบดีกรมเจ้าท่า และคณะเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าให้การต้อนรับ หลังจากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการนี้สืบเนื่องจากที่มีการประชุมและมอบหมายให้ กรมเจ้าท่าร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ในการสำรวจคูคลองระบายน้ำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำว่า ในแต่ละลุ่มน้ำมีการเชื่อมโยงกันอย่างไร ซึ่งจะพบว่าบางส่วนมีการตื้นเขินและมีสันดอน ซึ่งกรมเจ้าท่า โดยรัฐมนตรีคมนาคม ก็ได้มีการสั่งการให้ขุดบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ขุดให้มีหน้ากว้าง 240 เมตร สำหรับใช้เดินเรือเพื่อเร่งประสิทธิภาพในการระบายน้ำ และลึกจากระดับน้ำทะเล 3 เมตร ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้อีก 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และโครงการดังกล่าวก็จะทำในส่วนของแม่น้ำท่าจีนด้วย ซึ่งจะแล้วเสร็จใจนเดือนกันยายน " โครงการนี้จะช่วยเร่งประสิทธิภาพการระบายน้ำ และหลังจากที่เราขุดจะพบว่ามีจุดตื้นเขินต่างๆ ซึ่งหากเราขุดให้ลึกขึ้นและมีร่องน้ำ จะทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลงไปยัง ส่วนของตอนล่างเร็วขึ้น " น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว เมื่อถามว่าจากจุดนี้ยังต้องทำจุดในแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนอื่นที่ยังตื้นเขินหรือไม่ เช่นจากจ.นครสวรรค์ลงมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงจะไปดูในส่วนนั้นก่อน เพราะว่าให้กรมเจ้าท่าสำรวจอยู่ ซึ่งอันนี้ต้องทำจุดใหญ่ก่อน เรามีข้อจำกัดในแก้ปัญหาทีที่มีระยะเวลาจำกัด อาจจะไม่สามารถทำให้ได้เรียบร้อยทั้งหมด จะเลือกเอาจากการลำดับความสำคัญ อย่างจำนวนอุปกรณ์ต่างๆ เราก็ใช้อุปกรณ์เรือของกรมเจ้าท่าหมดแล้ว รวมถึงที่จะใช้ร่วมกับภาคเอกชนด้วย ซึ่งก็จะมีข้อจำกัด เพราะว่าเมื่อขุดเราก็ต้องนำเอาไปทิ้ง ซึ่งเรือที่เอาไปทิ้งก็ต้องวิ่งไปทิ้งจากจุดที่ตั้งห่างออกไป10 - 20 กิโลเมตร ก็จะใช้เวลาพอสมควร ซึ่งต้องจัดลำดับความสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าทางกรมอุตุนิยมวิทยารายงานเรื่องมรสุม จะส่งผลให้ให้เพิ่มปริมาณน้ำหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนเท่าที่คุยกันก็ยังไม่ได้มากกว่าปีที่แล้ว แต่ว่าอาจจะเป็นลักษณะของปริมาณน้ำฝนที่ตกมาช่วงนี้มากและฉับพลัน แต่ประสิทธิภาพการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ทำการระบายน้ำไปอย่างเต็มที่ และก็ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานลงไปสำรวจหน้างานจริงว่า บางพื้นที่อาจจะมีน้ำขังอยู่ อย่างไรก็ตามก็จะไม่ให้มีการน้ำขัง ปัญหาวันนี้ ยังไม่ได้เกิดเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัย แต่เป็นเรื่องปริมาณน้ำฝนที่ลงมาในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่า เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนกับการรับมือน้ำท่วม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดีกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งยากที่จะบอกเพราะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน แต่ ณ วันนี้ประมาณน้ำฝนไม่ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งการเตรียมการ เราเตรียมการในลักษณะที่หากปริมาณน้ำฝนมาเท่ากับปีที่ผ่านมาหรือน้อยกว่าโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมหรือเหตุต่างๆก็น้อยลง ประกอบกับสิ่งที่เราได้เตรียมการทั้งระบบป้องกัน ก็คือการสร้างความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำและการเสริมแนวถนนเลียบแม่น้ำ และการขุดลอกคูคลองก็เชื่อว่าองค์ประกอบรวมกันน่าจะดีขึ้น " ตอนนี้ห่วงที่ปลายน้ำ ส่วนต้นน้ำก็ต้องทำ แต่ได้สั่งการทำฝายชะลอน้ำ ซึ่งจะเสร็จในกลางเดือนนี้ พื้นที่กลางน้ำเท่าที่ติดตามการก่อสร้างก็น่าจะเสร็จทัน ซึ่งสื่อมวลชนอาจจะไม่ได้เห็นการซ่อมที่ สมบูรณ์ทั้งหมด แต่เราจะซ่อมอย่างน้อยเฟสแรก เพื่อที่จะเตรียมรองรับทั้งเรื่องเขื่อนและประตูระบายน้ำทั้งหมด ที่มีปัญหาในปีที่ผ่านมา ประกอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวี หรือโทรมาตรวัดน้ำเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในจุดสำคัญ อันนี้จะมีการติดตั้งให้เสร็จก่อน ซึ่งก็เหลือการเร่งระบายน้ำในส่วนของพื้นที่ปลายน้ำ ที่ยังติดปัญหาทางด้านเทคนิคที่ยังต้องการการติดตามเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาทางด้านเทคนิคอีกครั้งหนึ่ง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
breakingnews.nationchannel.com
วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
"ยิ่งลักษณ์"เชื่อปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว รับพท.ปลายน้ำยังน่าห่วง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
นายเปรมชัย ใจกว้าง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอิเล็กทรอนิคส์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า กสท ได้พัฒนาการบริการรูปแบบใหม่ &quo...
-
ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา เปิดเผยในการเสวนาประชาชนสัญจรครั้งที่ 11 "ขุมทรัพย์น้ำมันไท...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น