วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กนอ.ระดมผู้เชี่ยวชาญวางมาตรการป้องกันเหตุฉุกเฉินมาบตาพุดคอมเพล็กซ์

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. - นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา กนอ.ได้มีการประชุมร่วมกับสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงในการพิจารณาแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งหมด กรณีเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด และสารเคมีรั่วไหลในพื้นที่บริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมิคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำข้อมูลและข้อเสนอแนะที่ได้มากำหนด มาตรการป้องกันวางเป็นกรอบการปฏิบัติในระยะเร่งด่วนต่อไป โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความปลอดภัยกับชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบนิคมฯ ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ กนอ. ยังเตรียมปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการสื่อสาร เพื่อการกระจายข้อมูล ข่าวสาร และข้อเท็จจริงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้แทนชุมชน เทศบาลเมือง มาบตาพุด และชมรมประชาสัมพันธ์กลุ่มโรงงานนิคมฯ มาบตาพุด (MPR) ชมรมความปลอดภัย (RESA) กลุ่มเพื่อนชุมชน สื่อมวลชนท้องถิ่นเพื่อระดมความคิดเห็นในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเด็นช่องทางการสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ไปยังกลุ่มชุมชนให้ได้รับทราบอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ซึ่งหลายฝ่ายเห็นด้วยให้มีการพัฒนารูปแบบและวิธีการสื่อสาร ให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้องและชัดเจน ไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรในการปฏิบัติงานต้องมีศักยภาพในการสื่อสารให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย

“การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะต้องประกอบไปด้วยคุณภาพของบุคลากร ช่องทางการสื่อสารที่ตรงกับเป้าหมาย อุปกรณ์และเทคนิคในการสื่อสาร รวมทั้งการใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่ายและกระชับได้ใจความ ดังนั้นจึงเห็นว่าระบบการสื่อสารที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นสถานีกระจายข่าวด่วนในชุมชนต่าง ๆ จะต้องมีประสิทธิภาพ และกระจายได้ครอบคลุมในพื้นที่รอบมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ทั้ง 33 ชุมชน ได้ทันสถานการณ์” นายวีรพงศ์ กล่าว

สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น บริษัทบีเอสทีฯ ได้แสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก โดยการจ่ายค่าเล่าเรียนแก่บุตรของผู้เสียชีวิต ระดับอนุบาล-ประถมศึกษา รายละ 20,000 บาท มัธยมศึกษา รายละ 30,000 บาท ส่วนระดับอุดมศึกษา 50,000 บาท และ มีแนวทางการหางานให้ภรรยาผู้เสียชีวิตและเงินช่วยเหลือญาติด้วย. -สำนักข่าวไทย

www.mcot.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม