ปกติ คนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาก่อคดีในประเทศไทย มีเป็นประจำอยู่แล้ว
นอกจากเข้ามาก่อคดีแล้ว ยังมีคนร้ายที่ก่อคดีในประเทศต่างๆ แล้วหนีเข้ามาซุกตัวอยู่ในประเทศไทย ประเภทนี้ก็มีจำนวนไม่น้อย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยให้ความสำคัญของคดีคนร้ายข้ามชาติอยู่ในระดับต้นๆ ดูเหมือนว่าหน่วยปราบปรามคนร้ายข้ามชาติระดับกรมที่ตั้งขึ้นมาก็ยังมีอยู่ แต่หน่วยงานของตำรวจแต่ละแห่งก็ต่างคนต่างทำ เมื่อมีคดีเข้ามา ไม่รอให้ระดับกรมออกมาทำเอง
คดีคนร้ายข้ามชาติเข้ามาก่อคดีจากในอดีตถึงปัจจุบันมีมากมายหลายรูปแบบ ประเภทประสงค์ต่อทรัพย์ เช่น เข้าไปฉกเพชร นาฬิการาคาแพง ทุบกระจกรถกวาดทรัพย์สิน เช่ารถตระเวนไปตามหมู่บ้านใหญ่ๆ แล้วงัดบ้านที่เจ้าของไม่อยู่เข้าไปกวาดทรัพย์สิน และยังอีกสารพัดวิธีของการก่ออาชญากรรม
ช่วงที่ผ่านมานี้ออกจะผิดปกติ มีคดีที่คนร้ายต่างชาติบุกเข้าไปในบ้านหรูตามหมู่บ้านแล้วงัดเซฟกวาดทรัพย์สินอาละวาดถี่มาก นอกจากในพื้นที่เมืองกรุงแล้วยังแพร่ระบาดออกไปในต่างจังหวัดอีกด้วย
ตำรวจก็มีจับกุมได้บ้าง แต่ที่เกิดคดีและจับไม่ได้มีมากกว่า!!!
วันก่อน เจ้าของร้านจิวเวลรี่ "เอ็กซ์เปิร์ตเจมส์" ย่านสีลม นำเครื่องเพชรจะไปโชว์ในงานที่ภูเก็ต ถูกคนร้ายทุบกระจกรถกวาดไปประมาณ 30 ล้าน ตำรวจเมืองภูเก็ตกับตำรวจทางหลวง สกัดจับได้ทันควัน
คนร้ายชาย-หญิงเป็นชาวเม็กซิกัน ชาวตุรกี ชาวมาเลเซีย และหลบหนีไปได้เป็นหญิงมาเลเซียคนหนึ่ง
ถัดมาไม่กี่วัน ตำรวจชลบุรีจับกุม แก๊งคนร้ายชาวโคลอมเบีย ได้ 3 คน ตระเวนงัดบ้านลักทรัพย์ ทุบเซฟกวาดทรัพย์สิน เตรียมส่งกลับไปยังประเทศของมัน
แก๊งนี้สารภาพว่าเช่ารถตระเวนโจรกรรมตามหมู่บ้านหรูทั้งในกรุงและต่างจังหวัดมามากมาย
อีกวันต่อมา ตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ก็จับแก๊งขับรถตระเวนโจรกรรมได้อีกแก๊ง เป็นชาย-หญิง ชาวโคลอมเบีย และเม็กซิกัน รวม 4 คน พร้อมทรัพย์สินมีค่ามากมาย
มันก็แปลก ไอ้วายร้ายข้ามชาติพวกนี้มันรู้ร่องช่องทางโจรกรรมตามหมู่บ้านได้ยังไง?!?
ถ้าไม่มีคนไทยร่วมมือ!!!
www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น