วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ตร. แจงผวจ.ภูเก็ต คดีโชเฟอร์ 4 ล้อทุบหัว 2 ฝรั่ง

นักท่องเที่ยวโดนอีก! 2 โจรเชียงใหม่วิ่งราวแหม่มสาวอาสาสมัครชาวอเมริกันกลางถนน จ.ภูเก็ต ตำรวจโร่แจงผู้ว่าฯ เหตุ 4 ล้อเล็กฟาดหัวนักท่องเที่ยว ยันเป็นเหตุชกต่อย ผู้ก่อเหตุมอบตัวแล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 มิ.ย.55 พ.ต.ท.สันติ คำใส พงส.สบ.3 สภ.เมือง เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก น.ส.ไคลน์ลูเซีย วูร์ อายุ 23 ปี อาสาสมัครชาวอเมริกัน ที่เดินทางมาทำงานด้านการช่วยเหลือเด็กกำพร้าในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเข้าพักอยู่บ้านเลขที่ 20 ถ.สิทธิวงค์ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าเมื่อตอนตี 2 คืนที่ผ่านมาได้เดินมาตามถนนช้างม่อย พร้อมกับเพื่อนอาสาสมัครด้วยกัน ขณะจะกลับที่พัก ได้ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถ จยย.แบบหญิง สีดำ ไม่ติดทะเบียน เข้ามาโฉบ และคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้เอื้อมมือมากระชากเอากระเป๋าย่ามสะพาย ในกระเป๋ามีเงินไทย 1,700 บาท โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 4s พร้อมเอกสารจำนวนหนึ่ง แล้วเร่งเครื่องฝ่าความมืดหลบหนีไป เช้าวันนี้จึงมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ด้าน จ.ภูเก็ต ที่มีรายงานข่าวว่า นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ว่า เกิดเหตุคนขับรถสี่ล้อเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊กหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ใช้วิทยุสื่อสารทุบศีรษะนักท่องเที่ยวชาวดูไบแตก เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวตกต่ำนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 มิ.ย.พ.ต.ท.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว รอง.ผกก.สส.สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต รับผิดชอบการดูแลคดี-สำนวนการสอบสวนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ได้รายงานข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์คนขับรถสี่ล้อเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊ก หาดป่าตอง อ.กะทู้ ใช้วิทยุสื่อสารทุบศีรษะนักท่องเที่ยวชาวดูไบแตก ได้รับบาดเจ็บ ต่อ ผวจ.ภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.50 น.วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ บุญแสง ร้อยเวร สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าศูนย์การค้าจังซีลอนหาดป่าตอง ภูเก็ต ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง ตรวจสอบพบนายฮาเม็ด ทาฮา อายุ 35 ปี ชาวอียิปต์นั่งอยู่บนถนน ไม่ยอมไปพบแพทย์ที่ รพ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เจรจาผ่านล่าม จนนายฮาเม็ดยอมลุกขึ้นจากถนนไปนั่งยังริมฟุตปาท

จากการสอบถาม เบื้องต้นทราบว่า นายฮาเม็ดถูกคนขับรถสี่ล้อเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊กชกต่อยจนคิ้วแตก ส่วนคนร้ายเป็นชายไทยและได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แนะนำให้นายฮาเม็ดไปพบแพทย์ที่ รพ.ป่าตอง เพื่อรักษาตัว โดยเย็บบาดแผลที่คิ้วซ้ายจำนวน 8 เข็ม แพทย์ลงความเห็นมีแผลฉีกขาดบริเวณคิ้วซ้ายเป็นสามแฉกขนาด 3 ซม. X 0.5 ซม.ใช้เวลารักษาบาดแผลไม่เกิน 7 วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน โดยเย็บแผลเสร็จเวลา 22.30 น.ของวันเดียวกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานายฮาเม็ดมาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดที่ สภ.กะทู้ จนทราบว่าเมื่อเวลา 19.50 น.วันที่ 26 มิ.ย.นายฮาเม็ดพร้อมครอบครัวได้เรียกรถสี่ล้อเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊กที่บริเวณด้าน ชหน้าศูนย์การค้าจังซีลอน ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง เพื่อให้ไปส่งที่โรงแรมที่พัก ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต คนขับรถตุ๊กตุ๊กคันดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายสิรภพ งามเรียบ อายุ 40 ปี ได้สอบถามมีผู้โดยสารจำนวนกี่คน นายฮาเม็ดแจ้งว่ามี 6 คน โดยนายสิรภพจึงคิดค่าโดยสารเป็นเงิน 300 บาท จากนั้นนายฮาเม็ดกับครอบครัวได้ขึ้นไปนั่งบนรถ แต่ปรากฏว่ามีผู้โดยสารมากกว่า 10 คน นายสิรภพจึงเรียกค่าโดยสารเพิ่มเป็น 400 บาท แต่นายฮาเม็ดไม่ยินยอม ทำให้มีปากเสียงและมีการทะเลาะวิวาทกัน นายสิรภพจึงได้ชกนายฮาเม็ดด้วยหมัดไป 2 ครั้ง ถูกที่บริเวณคิ้วซ้ายแตก จากนั้นนายสิรภพได้วิ่งหลบหนีไป

ต่อมาเวลา 23.30 น.วันเดียวกัน นายสิรภพได้เข้าพบพนักงานสอบสวนและยืนยันว่า เป็นคนชกนายฮาเม็ดจนคิ้วแตกจริง เนื่องจากโมโหที่นายฮาเม็ดหลอกว่ามีผู้โดยสารเพียง 6 คน แต่กลับมีกว่า 10 คน แต่นายฮาเม็ดไม่ยอมจ่ายค่าโดยสารเพิ่ม จึงมีการโต้เถียงกันขึ้น ญาติๆ นายฮาเม็ดที่มีจำนวนมากได้พยายามจะเดินปรี่เข้ามาหา ตนจึงชกนายฮาเม็ดเพื่อป้องกันตัว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยนายสิรภพให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานอัยการฟ้องศาลดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว รอง.ผกก.สส.สภ.กะทู้ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีการใช้อุปกรณ์หรือวิทยุสื่อสารทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่อย่างใด เป็นการชกต่อยและทะเลาะวิวาทกัน เนื่องจากตกลงค่าโดยสารกันไม่ได้ และไม่ใช่นักท่องเที่ยวชาวดูไบ แต่เป็นชาวอียิปต์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเกิดเหตุได้ส่งชุดสืบสวนและสายตรวจออกติดตามตัวนายสิรภพมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายทันที



www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม