การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม "เดินทาง ดูหนัง เล่าเรื่อง" พร้อมการประกาศผลรางวัลโครงการประกวดหนังสั้น "ในความผูกพันของฉันกับรถไฟไทย" เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ถ่ายทอดจินตการผ่านเลนส์ในเชิงสร้างสรรค์
การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม "เดินทาง ดูหนัง เล่าเรื่อง" เพื่อประกาศผลรางวัลโครงการประกวดหนังสั้น "ในความผูกพันของฉันกับรถไฟไทย" เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และร่วมถ่ายทอดจินตการที่มีต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยผ่านเลนส์ในเชิงสร้างสรรค์ โดยจะพาผู้ร่วมงานสัมผัสกับบรรยากาศแบบคลาสสิกย้อยยุค 70-80 ผ่าน โซนต่างๆ 4 โซน คือ หัวลำโพงราม่า, สนามหลวง, ชานชาลา และ ตุ๊กตากระดาษ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดจำนวนกว่า 70 ทีม
นายกมลชนก มุกดา ผู้อำนวยการศูนย์ประจำการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการจัดการจัดกิจกรรม "เดินทาง ดูหนัง เล่าเรื่อง" ว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงออก ใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาให้เป็นประโยชน์ โดยร่วมถ่ายทอดมุมมองที่มีต่อการรถไฟฯ ผ่านทางหนังสั้น ซึ่งแต่ละคนย่อมมีมุมมองที่แตกต่างกัน ดีบ้างไม่ดีบ้าง ก็นับว่าจะเป็นประโยชน์ที่การรถไฟฯ รวมถึงภาครัฐจะได้นำเอาไปปรับปรุง พัฒนากิจการรถไฟต่อไป
ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้ทราบว่ามีอีกหลายคนที่ไม่เคยนั่งรถไฟ แต่เมื่อมาร่วมกิจกรรมทำให้ได้นั่งรถไฟได้เข้าไปสัมผัส คลุกคลีกับพนักงานรถไฟ เกิดความเข้าใจในรถไฟมากขึ้น ได้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน และเกิดความเข้าใจว่าเหตุใดรถไฟจึงคิดค่าโดยสารในราคาถูก และ ทำไมต้องดำเนินโครงการรถไฟฟรี เพื่อประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อจำกัดในด้านต่างๆ การรถไฟฯ พยายามที่จะปรับปรุงพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทุกคนเป็นสำคัญ การเดินทางด้วยรถไฟมีข้อได้เปรียบจากการเดินทางอื่นอยู่หลายประการ อาทิ ค่าบริการไม่แพง และมีความปลอดภัยสูง การจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างประสบการณ์ร่วมให้ประชาชนรวมถึงคนรุ่นใหม่ได้มีความใกล้ชิด และเข้าใจการรถไฟฯ มากขึ้น
กิจกรรม "เดินทาง ดูหนัง เล่าเรื่อง" จะเป็นการประกาศผลรางวัลของโครงการประกวดหนังสั้น ภายใต้แนวคิด “ในความผูกพันของฉันกับรถไฟไทย” ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล พร้อมโล่เกียรติยศ รวมทั้งสิ้นกว่า 200,000 บาท โดยโครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ และได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่และประชาชนผู้สนใจในการทำหนังสั้นเป็นอย่างมาก มีผลงานที่ส่งเข้าร่วมโครงการกว่า 70 เรื่อง บรรยากาศภายในงานจำลองบรรยากาศแบบย้อนยุคในช่วงปี 70-80 ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงที่มีความคลาสสิก มีเสน่ห์อยู่ในตัวหลายๆ อย่าง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เนรมิต สถานีรถไฟหัวลำโพงให้เป็นสถานที่จัดงาน ภายในงานจะมีการนำผู้ชมร่วมสัมผัสกับเรื่องราวในอดีตผ่านโซนต่างๆ 4 โซน คือ หัวลำโพงราม่า, สนามหลวง, ชานชาลา และ ตุ๊กตากระดาษ รวมถึงยังมีความบันเทิงในบรรยากาศย้อนยุค การออกร้าน และกิจกรรมสนุกๆ มากมาย
นอกจากนั้นภายในงานจะมีการแสดงผลงานที่ผ่านเข้ารอบให้ประชาชนผู้ที่สนใจรับชมฟรี ผลงานส่วนใหญ่การนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจต่อการเดินทางด้วยรถไฟที่หลากหลาย ทั้งในด้านบวกและลบ ถือว่าเป็นการสะท้อนภาพความคิดและทัศนคติของคนกลุ่มนี้ที่มีต่อรถไฟไทย โดยในการตัดสินของคณะกรรมการนั้นจะเปิดกว้างสำหรับการวิพากษ์ และ วิจารณ์แง่มุมต่างๆ ของรถไฟไทย ซึ่งถือว่าเป็นการสื่อสารโดยตรงจากผู้ใช้บริการไปยังรถไฟไทยว่าควรแก้ไข ปรับปรุง พร้อมทั้งควรสร้างทัศนคติและมุมมองใหม่ของประชาชนที่มีต่อการรถไฟฯ ต่อไปอย่างไร
สำหรับคณะกรรมการตัดสินในโครงการประกวดหนังสั้น “ในความผูกพันของฉันกับรถไฟไทย” นั้น ประกอบด้วย คุณธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย คุณสุภาพ หริมเทพาธิป ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ และ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Bioscope คุณเอนก สวัสดิโยดม โปรดิวเซอร์ รายการ Hot Short Film สถานีโทรทัศน์ Thai PBS คุณพิทยากร ลีลาภัทร์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท แคททาลิสท์ อัลลายแอนซ์ จำกัด ตัวแทนจัดจำหน่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศ โดยรางวัลชนะเลิศทั้งหมดแบ่งเป็น
ได้แก่ หนังสั้นเรื่อง ฉันนั่งรถไฟไปเยี่ยมแม่ฯ ทีม ฟินวิ่ว จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ได้แก่ หนังสั้นเรื่อง ปลายรางรถไฟ ทีม รวมมิตรโปรดักชั่น จากทีมประเภทประชาชนทั่วไป
ได้แก่ หนังสั้นเรื่อง Everyday เพราะรัก...อยู่กับเราทุกวัน ทีม everyday จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร
ได้แก่ หนังสั้นเรื่อง The Outside สิ่งมีค่าที่น่ารำคาญ ทีม JT2N จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้สนใจสามารถชมผลงานหนังสั้นที่เข้าร่วมและชนะการประกวดหนังสั้น “ในความผูกพันของฉันกับรถไฟไทย” ได้ที่ www.facebook.com/railwayshortfilm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น