นายประจวบ สุภิณี อัครราชฑูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเสวนาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองจากนักลงทุนผู้มีประสบการณ์ การลงทุนในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทย ในงานสัมมนา"โอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในพม่า"ซึ่งจัดโดยสถานีโทรทัศน์ Money Channel บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับธนาคารกรุงไทยวันนี้(6ก.ค.)ว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าไปลงทุนยังมีทัศนคติและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศพม่าในหลาย ๆ ด้าน จึงมีข้อแนะนำให้เข้าไปศึกษาหาข้อมูล เพื่อให้เห็นโอกาส และศักยภาพในพม่าด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาหลายคนมองว่า พม่าล้าหลังประเทศไทยประมาณ 40 ปี แต่วันนี้พม่ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และอาจขึ้นมาเทียบประเทศไทยภายใน 5-10 ปีนี้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบของพม่าที่มีอยู่ ดังนั้น ทางที่ดีควรหาพันธมิตรชาวพม่ามาร่วมทุน
"โอกาสที่น่าลงทุนในตลาดพม่านั้น พม่ามีประชากรประมาณ 60 ล้านคน สินค้าที่ใช้บริโภค 80% มาจากการนำเข้า ที่สำคัญไทยและพม่ามีวัฒนธรรมและศาสนาใกล้ชิดกัน ที่ผ่านมาพม่าให้ความเชื่อมั่นในสินค้าไทย แต่ปัญหาของพม่าขณะนี้ยังไม่พร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เพียงพอ"นายประจวบกล่าวและว่า
นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวาย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(DDC) ในเครือบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือITDกล่าวว่า คนที่สนใจเข้าไปลงทุนในพม่าต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติใหม่อย่ามองพม่าล้าหลัง ตอนนี้พม่าเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็วมากโดยพม่าใช้โมเดลของสิงคโปร์ในการบริหารประเทศ ปัจจุบันมีนักลงทุนจากจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เข้าไปลงทุนในโครงการต่าง ๆจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของไทย
นายกิตตินันท์ คุณะเพิ่มศิริ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด-ภูมิภาค บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า วันนี้หลายเมืองใหญ่ในพม่ามีการเจริญเติบโตไปมาก มีร้านอาหาร โรงแรมห้างสรรพสินค้าที่ให้บริการด้วยระบบเทคโนโลยีที่ไม่แตกต่างจากประเทศไทย การเข้าทำธุรกิจในพม่าวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำการบ้านศึกษาตลาดให้ดี พม่าถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก ยกตัวอย่างในตลาดเบียร์มีผู้ผลิตชาวพม่า 3 ราย แต่ 2 ใน 3 รายเบื้องหลังเป็นบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ระดับโลก แม้ว่าปัจจุบันกฎหมายในเรื่องการอนุญาตขายสินค้าพวกแอลกอฮอลล์ยังไม่มีความชัดเจน แต่ปรากฎว่า มีสินค้าเกี่ยวกับแอลกอฮอลล์ทุกประเภทวางขายในตลาดทุกระดับให้เลือก และราคาถูกกว่าในประเทศไทย ที่สำคัญร้านค้าที่ขายสินค้าเหล่านี้มีการสต๊อกสินค้ากันครั้งละ 40-50 หลัง เทียบกับร้านค้าประเภทเดียวกันในประเทศไทยสต๊อกกันเพียงไม่กี่ขวดในร้าน
นายบุญเกียรติ ชีวะตระกูลกิจ ผู้บริหารจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า พม่าถือเป็นตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ โดยผู้ประกอบการที่สนใจเข้าไปลงทุนต้องดูศักยภาพของตัวเองด้วยว่า สามารถจะเข้าไปแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้หรือไม่ อย่าทำในลักษณะตีหัวเข้าบ้าน ต้องเข้าไปอย่างมืออาชีพ เพราะปัจจุบันลูกค้ามีความรู้ในการพิจารณาเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ และกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านซีพีเอฟได้เข้าไปในพม่าตั้งแต่ยังไม่เปิดประเทศ โดยเข้าไปทำในส่วนโรงงานผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ และการเลี้ยงไก่ไข่ ปัจจุบันมีโรงงานผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์อยู่ในทุกเมือง และถือครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งกว่า 80% ล่าสุดได้ตั้งโรงงานผลิตไส้กรอก,ลูกชิ้น,กุนเชียง และซีพีเอฟกำลังมีแผนไปตั้งโรงงานผลิตอาหารสำหรับคนรับประทานเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากในพม่ามีกำลังซื้อของลูกค้าในระดับพรี่เมี่ยม ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายเล็กที่สนใจเข้าไปลงทุนในพม่าควรหาพาร์ทเนอร์คนท้องถิ่นในพม่าเป็นผู้ร่วมทุน จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากประสบการณ์ที่เข้าไปลงทุนพบว่า การทำธุรกิจกับชาวพม่ามีการตัดสินใจที่รวดเร็วมาก โดยเฉพาะโครงการที่ไปทำกับรัฐบาลพม่า ปัจจุบันพม่าไม่เพียงต้องการเปลี่ยนนโยบายและมุมมองในการบริหารประเทศใหม่ แต่ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ด้วย ดังนั้น ล่าสุดบริษัทได้เข้าไปรับงานโครงการถึง 3 โครงการใหญ่ที่รัฐบาลพม่าต้องการทำในปีนี้ เช่น งานวันชาติที่เพิ่งผ่านมา เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น