วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กูเกิล เผย 4 ยุทธศาสตร์หลัก ดันค้าออนไลน์

ผู้บริการกูเกิล ประเทศไทย เผย 4 ยุทธศาสตร์สำหรับตลาดประเทศไทย เน้นบริการเสิร์ช หรือค้นหาข้อมูล นวัตกรรมใหม่ ๆ ทุกบริการต้องเป็นภาษาไทยและธุรกิจโกออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการ นายอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ กูเกิล ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ยุทธศาสตร์หรือนโยบายหลักสำหรับกูเกิลประเทศไทย ได้กำหนดไว้ 4 แนวทางคือ บริการเสิร์ชเอนจิ้น หรือค้นหาข้อมูล นวัตกรรมใหม่ ๆ บริการของกูเกิลต้องเป็นภาษาไทยและบริการโกออนไลน์ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเฉพาะธุรกิจโกออนไลน์ เพราะปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านราย แต่มีเพียง 10% เท่านั้นที่มีตัวตนบนการค้าออนไลน์ รวมทั้งเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยที่ให้เข้าถึงได้เข้าถึงง่าย ๆ ก็ยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ต นโยบายหลักของกูเกิลเกี่ยวกับสินค้าและบริการก็คือ เมื่อทำออกมาแล้วต้องรองรับ 40 ภาษาทั่วโลก รวมทั้งภาษาไทย ซึ่งจะครอบคลุมประชากรเกือบทั่วโลก นายอริยะ กล่าวว่า กูเกิลต้องการให้ผู้ประกอบการในไทยมีตัวตนบนการค้าขายออนไลน์และประสบความสำเร็จ เป็นโอกาสเพิ่มช่องทางธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ของกูเกิล หากต้องการใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อ เพราะกูเกิลให้ใช้ฟรี หากผู้ประกอบการไม่มีหรือไม่รู้จักออนไลน์จะทำธุรกิจในยุคนี้ได้อย่างไร อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยยังชอบเดินพบปะผู้คนและสัมผัสสินค้าด้วยตนเอง หน้าร้านบนอินเทอร์เน็ตจึงเหมือนช่องทางที่เปิดให้หาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ ในประเทศไทยเทรนด์หรือความนิยมในการทำธุรกิจออนไลน์กำลังจะมา แต่ต้องใช้เวลา รวมถึงนโยบายของรัฐบาลซึ่งตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุม 80% ของประชากร ก็จะช่วยผลักดันให้การค้าออนไลน์เติบโตมากขึ้น “การค้าขายออนไลน์เป็นรูปแบบการทำธุรกิจแบบใหม่ แต่เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดยังขาดความคุ้นเคย สินค้าหลายอย่างยังไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนกำลังเรียนรู้ ในขณะที่ผู้บริโภคนั้นไปเร็วกว่าเจ้าของธุรกิจ เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะไล่ตามผู้บริโภคให้ทัน” ทั้งนี้ กูเกิล ได้เปิดบริการกูเกิล เทรดเดอร์ (google trader) บนเว็บไซต์ www.google.co.th/local/trader เป็นภาษาไทยล้วน ๆ สำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเฉพาะผู้ขายที่เป็นเอสเอ็มอี หากยังไม่มีหน้าร้านออนไลน์แต่มีสินค้า ก็สามารถเปิดหน้าร้านได้ฟรี เพียงแค่มีฐานข้อมูลกับจีเมล โดยไทยเป็นประเทศที่ 5 ในโลกและประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีบริการดังกล่าว.

www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม