วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สอบสวนการตาย ยิงรถตู้ ทหารยันไม่ได้ยิง ไม่รู้ว่ากระสุนมาจากไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่านายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิตแจ้งว่า นายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้มาเบิกความไปแล้ว โดยระบุว่า มีอาชีพขับรถตู้รับจ้างรับส่งชาวต่างชาติ วันเกิดเหตุพยายามหาทางกลับบ้านและต้องผ่านเส้นทางดังกล่าวซึ่งไม่ได้มีด่านหรือการแจ้งว่าปิดถนน เมื่อถึงที่เกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศจึงขับต่อไปจนกระทั่งถูกยิง ส่วนนายพัน คำกอง ทราบว่าเป็นคนขับแท็กซี่ ช่วงเกิดเหตุกลับบ้านไม่ได้เพราะไม่มีรถ จึงเข้าไปพักอยู่ในสำนักงานของคอนโดที่ยังสร้างไม่เสร็จใกล้กับจุดที่เกิดเหตุผู้บังคับกองพันจากลพบุรี ยัน M79 ลงก่อนช่วงค่ำ -ได้รับรายงานแต่ไม่ได้ลงมาดูที่เกิดเหตุ พ.ท.วรการ ฮุ่นตระกูล ผู้บังคับกองพันที่ 31 ทหารปืนใหญ่ รักษาพระองค์ ( ผบ.ป.พัน.31 รอ.) เบิกความว่า ผู้บังคับกองพันประจำการอยู่บนแอร์พอร์ตลิงก์ ชั้น 3 โดยหน่วยของตนย้ายจากทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 14 พ.ค.มาประจำการบริเวณนี้ในช่วงเย็น ตั้งแต่หัวค่ำก็มีเสียงระเบิดทยอยเกิดขึ้นทางฝั่งซ้ายของตึก ห่างไปไม่เกิน 500 เมตร คาดว่าเป็น M79 กระทั่งมาตกที่ถนนราชปรารภและบนหลังคาสะพานลอยซึ่งมีทหารประจำการอยู่ จึงสั่งให้มีการถอนกำลัง เมื่อเงียบไปพักหนึ่งจึงให้กลับไปประจำการใหม่ กระทั่งเวลาประมาณ 24.00 น.มีการวิทยุแจ้งว่ามีรถตู้วิ่งเข้ามา มีการประกาศเตือนให้หยุดรถ ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น แต่ไม่ทราบทิศทาง ดังต่อเนื่องหลายนัดประมาณ 1 นาที ตนไม่ได้ออกมาดูเหตุการณ์ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชารายงานว่ามีรถตู้วิ่งออกมาจากซอยวัฒนวงศ์ (ราชปรารภ 8) มุ่งหน้าหาแอร์พอร์ตลิงก์ ไม่มีการรายงานว่ามีการระดมยิง แต่ภายหลังเหตุการณ์สงบพบในรถมีผ้าพันคอและเสื้อสีแดง เขียนข้อความ “แดงทั้งแผ่นดิน” และมีมีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุต ไม่มีอาวุธอย่างอื่น หลังจากนั้นพักใหญ่ก็ได้รับรายงานจากหน่วยพยาบาลอีกว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนขับรถตู้ และเด็กอีก 1 คน จึงให้ติดต่อประสานรถพยาบาลในพื้นที่ จากนั้นก็มีการแจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บอีกรายที่บริเวณคอนโด Ideao ซึ่งกำลังก่อสร้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้ตนไม่ได้ลงไปดูที่เกิดเหตุแต่อย่างใด

www.prachatai.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม