วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

"ชักเยอะ" ต้องระวัง! บูมเที่ยวไทย แถม ผู้ร้ายต่างชาติ

ขณะที่ประเทศไทย คนในแวดวงส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจอื่น ๆ กำลังกังวลว่า ’เหตุร้าย ๆ“ ที่หลัง ๆ “เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติ” ที่เข้ามาในไทย มาท่องเที่ยว มาดูลู่ทางทำธุรกิจนำนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทย มาทำธุรกิจต่าง ๆ บ่อยครั้ง บ้างก็นอนตายอยู่ในห้องพักอย่างเป็นปริศนา บ้างก็ถูกทำร้าย บ้างก็ถูกชิงทรัพย์ บ้างก็ถูกทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์จนบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย ฯลฯ ในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน เหตุร้าย ๆ ในไทยที่ ’เกิดขึ้นโดยชาวต่างชาติ“ ก็ชักจะ ’มีไม่น้อยเช่นกัน“ อย่างกรณี ’ผู้ร้ายต่างชาติปล้นพังตู้เอทีเอ็ม“ หรือถึงขั้น ’ตั้งแก๊งปลอมบัตรประชาชนไทย“ ว่ากันถึงชาวต่างชาติที่มาเที่ยว-มาพำนักในไทยนั้น ก็มีทั้งที่เข้ามาระยะสั้น ๆ และระยะยาว ๆ หรือลองสเตย์ ซึ่งแบบหลังนี่ที่ถึงขั้นอยู่เป็นปีหรือนานกว่าปีก็มีไม่น้อย หลายรายถึงขั้นพูดไทยได้ปร๋อ และมีจำนวนไม่น้อยที่แต่งงานอยู่กินกับคนไทย หาลู่ทางทำมาหากินในไทย ซึ่งก็มิใช่ว่าต่างชาติเหล่านี้จะมีปัญหาทั้งหมด เพียงแต่มีบางส่วนที่มีพฤติกรรมสร้างปัญหา หลายรายมีพฤติกรรมผิดกฎหมาย-เป็นผู้ร้าย พลิกดูตัวเลขสถิติจำนวนชาวต่างชาติที่มาไทย ว่ากันเฉพาะที่แสดงตนว่าเป็นนักท่องเที่ยว จากตัวเลขที่รวบรวมโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค. หรือตลอดทั้งปี 2554 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 19,098,323 คน เพิ่มขึ้น 3,161,923 คน หรือเพิ่มขึ้น 19.84% จากปีก่อนหน้า โดยมีสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นในการมาเที่ยวไทย 3 อันดับแรก ในปี 2554 ได้แก่ เอเชียตะวันออก โอเชียเนีย เอเชียใต้ ตามลำดับ ส่วนประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุด 10 อันดับ ในปี 2554 ได้แก่ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลี อินเดีย ลาว ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ ซึ่งจาก 10 ประเทศที่ว่านี้ จีน อินเดีย รัสเซีย มีจำนวนที่ขยายตัวอย่างน่าสนใจ สำหรับทั้งปี 2555 นี้ แม้ทางองค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) จะคาดว่าแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวโลกจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวจากปี 2554 โดยคาดว่าจะขยายตัวแค่ประมาณ 3-4% โดยปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวโลกที่สำคัญคือ วิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปยุโรป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเทศไทยนั้น จากการวิเคราะห์สถิติการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 2554 และแนวโน้มสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวโลก ตลอดจนแผนงานและมาตรการด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์ และกระตุ้นตลาด ของหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาในไทยในปี 2555 จะขยายตัวประมาณ 8-10% ถ้าเป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ ในปี 2555 นี้ ก็น่าจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มี 19,098,323 คน อีกเกือบ ๆ 1,600,000 คน ถึงเกือบ 2,000,000 คน นอกจากนี้ เมื่อมองไกลไปข้างหน้าตามที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระบุ คือมีการตั้งเป้าดำเนินการส่งเสริมเพื่อจะให้ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านบาทใน 5 ปี จากปัจจุบันที่ทำได้แล้วราว 7 แสนล้านบาท และจากการที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในปี 2558 เหล่านี้ก็บ่งชี้ว่าใน 2 ปีครึ่งถึง 5 ปีนับจากนี้ ในไทยจะยิ่งมีชาวต่างชาติมาใช้ชีวิตมากกว่าที่เห็น ๆ กันตอนนี้ แน่นอนว่าต่างชาติมาเที่ยวไทยมาก ๆ เป็นเรื่องดี แต่ไทยก็จะต้องระวังเรื่องไม่ดีที่อาจมีแฝงมาด้วย!! ทั้งนี้ กับเรื่อง ’การทำผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ“ ’ผู้ร้ายต่างชาติ“ ’มาเฟียต่างชาติ“ ในประเทศไทยนั้น แม้จะไม่ถึงขั้นเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวหลายรูปแบบ ทั้งเข้ามาหลบซ่อนตัวในไทย มาใช้ไทยเป็นฐานวางแผนเตรียมการก่อการร้ายในประเทศอื่น หรือแม้แต่อาจจะตั้งใจก่อการร้ายในไทย แต่จะอย่างไร ประเทศไทย คนไทย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็จำเป็นต้องระวัง-ป้องกัน!! รายได้จากการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาใช้จ่ายในไทยเราเฉลี่ยต่อหัวต่อครั้ง (ระยะเวลาอยู่ในไทยเฉลี่ย 9.12 วัน) จากข้อมูล (ปี 2553) ของ ททท. ประมาณ 37,279.55 บาท หรือเฉลี่ยต่อคนต่อวันประมาณ 4,079 นั้น ก็จริงอยู่ที่เป็นเรื่องดีต่อเศรษฐกิจไทย ก็หอมหวนชวนเชื้อเชิญอยู่ไม่น้อย แต่กระนั้นไทยก็จะ ’เห่อต่างชาติ“ แบบเหมาเข่ง จะ ’หย่อนยานเรื่องการที่ชาวต่างชาติก็ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายไทย“ ไม่ได้ มิใช่จะชี้ว่าใครหย่อนยาน...แต่งานคงต้องหนักขึ้น ประชาชนก็ต้องช่วย...เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ’ผู้ร้ายต่างชาติ“ ชักจะเยอะ...ช่วยกันระวังให้ดี!!!.

www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม