กรุงเทพฯ 30 มิ.ย.- "สมิทธ" ชี้ต้องติดตามดูพายุเข้าประเทศไทยในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ หากมีพายุเข้าไทยโดยตรงอาจเสี่ยงน้ำท่วม แต่ยังห่วงภัยแล้งหนักหากฝนไม่ตก และเขื่อนยังพร่องน้ำไว้จนเหลือไม่เพียงพอ ยืนยันเตือนภัยอีกไม่เกิน 10 ปีน้ำท่วมกรุง หากไม่ทำเขื่อนปิดปากแม่น้ำ ด้าน สพฐ.เดินหน้าจับมือญี่ปุ่นจัดการเรียนการสอนภัยพิบัติให้นักเรียนป้องกันรู้พาครอบครัวหลบภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมเผชิญสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากไทยและญี่ปุ่นนำเสนอแนวปฏิบัติเพื่อให้ศึกษานิเทศก์และผู้บริหารโรงเรียนจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนทั่วประเทศ นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงแนวโน้มการเกิดภัยพิบัติในประเทศไทย ว่า ในปีนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณ์พายุที่จะเข้าประเทศไทยจนถึงช่วงเดือนกันยายน จึงจะชี้ได้ว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยหรือไม่ หากมีพายุเข้ามาโดยตรงหรือมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้นำฝนเข้ามาตอนบนหรือตอนกลางของประเทศไทย แล้วมีปริมาณน้ำมากเกินกว่าจะบริหารจัดการได้ ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันยังถือว่าเป็นปกติ ฝนยังไม่มากนัก และมีการพร่องน้ำเตรียมรองรับแล้ว นายสมิทธ กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงในขณะนี้คือหากมีฝนตกน้อยในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม อาจเกิดสถานการณ์ภัยแล้งอย่างหนักในประเทศไทย กระทบกับพื้นที่เพาะปลูกในภาพตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางอย่างหนัก อีกทั้งมีการพร่องน้ำในเขื่อนไว้อาจทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ซึ่งหลายสำนักพยากรณ์ในต่างประเทศก็ระบุไว้ว่าบริเวณประเทศไทยจะเกิดสถานการณ์เอลนิโน ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยังกล่าวด้วยว่า ในระยะ 8-9 ปีนับจากนี้ ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งหากไม่มีการดำเนินการป้องกันใด ๆ จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายในเวลาไม่ถึง 10 ปีนับจากนี้ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็ยังเป็นไปตามลำดับดังกล่าว สังเกตได้จากชายหาดหลายแห่ง เริ่มมีระยะสั้นลงเรื่อย ๆ เนื่องจากน้ำทะเลสูงขึ้น สำหรับแนวทางที่จะป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว คือจะต้องมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลระยะทาง 90 กิโลเมตร จากบริเวณอำเภอชะอำ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนถึงบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อปิดปากแม่น้ำสำคัญทั้งแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง นายสมิทธ ยังกล่าวถึงการให้ความองค์ความรู้แก่เยาวชนในการเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเยาวชนจะถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังครอบครัวอีกด้วย โดยรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการซักซ้อมรับภัยพิบัติทุกรูปแบบ ทั้งในโรงเรียนและในชุมชนเพื่อให้ประชาชนรู้จักเตรียมตัวพร้อมเผชิญภัยตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย
www.mcot.net
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ครั้งแรกของประเทศไทย พบพ่อแม่มือใหม่มีลูกแฝดถึง 6 คน โดยขณะนี้ลูกแฝดทั้ง 6 ปลอดภัยดี และมีอายุได้ 2 เดือนเศษ ร่างกายแข็งแรงดี เว้นแต่ลูกแฝดค...
-
ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ บริษัท เพนเทล (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการ “อาร์ต อิน พาร...
-
ดิสคัฟเวอรี่ แชนแนล เจาะลึกโศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นกับการแข่งขันกีฬาระดับโลก และแผนรับมือกับ ลอนดอน เกมส์ 2012 ในสารคดี SPORT UNDER THREAT ...
-
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชวนคนไทยติดตามปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวน ในรุ่งเช้าของวัน...
-
นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ให...
-
รายงานภัยคุกคามด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต (Internet Security Threat Report - ISTR) ของไซแมนเทค ฉบับที่ 17 เน้นย้ำรายละเอียดเกี่ยวกับการเป...
-
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อให้ภาคการเกษตรของประเทศไทยมีความเข้มแข็งในการปรับตัวให้สอดรับกับการรวมเป...
-
"หลุยส์ ซัวเรซ" เปิดใจหมดเปลือกผ่านสื่อบ้านเกิดประเทศอุรุกวัย อัดทีมคู่ปรับ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอิทธิพลที่...
-
กระแส AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่มาแรงอยู่ในขณะนี้ ทำให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตื่นตัวจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อม ตั้งแต...
-
ผ่านสังเวียนแข่งขันทำอาหารมามากมายหลายเวที แถมยังมีเหรียญและถ้วยรางวัลการันตีอีกเพียบ รายการ “เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย” ทางช่อง 7 เลยทาบทาม “เ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น