วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

2 คนร้านปล้นห้างทอง ตำรวจเร่งไล่ล่า

เหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนสงครามและปืนลูกซองพกบุกจี้ร้านทองอุกอาจรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.ต.สมมาตร สังข์ทอง สารวัตรเวร สภ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกจี้ชิงทองที่ห้างทองงามศิลป์ ตั้งอยู่เลขที่ 152/9 ถนนสุขาภิบาล เขตเทศบาลเมืองทับสะแก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภิศุภท์ ศุกระศร ผกก.สภ.ทับสะแก นำกำลังรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวคูหาเดียวติดกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาทับสะแก พบกระจกหน้าร้านแตกกระจายเกลื่อน มีนางจิฎากาญจน์ เพาะพูนธนะกิต อายุ 53 ปี เจ้าของร้านทองรออยู่ในร้านในอาการตื่นตระหนก

ทั้งนี้ นางจิฎากาญจน์เปิดเผยเหตุการณ์ว่า ขณะเกิดเหตุตนทำงานอยู่หลังร้าน มี น.ส.ตูตา สมศรี อายุ 30 ปี ลูกจ้างในร้านทำงานอยู่หน้าร้านเพียงลำพัง มีคนร้าย 2 คน นุ่งกางเกงยีนส์สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำเหมือนกันทั้ง 2 คนขี่รถ จยย.ฮอนด้าซีดี 400 ซุปเปอร์โฟร์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าร้าน แล้วบุกจู่โจมเข้ามาในร้านใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้า น.ส.ตูตา ทันทีจนเกิดอาการปวดแสบตาวิ่งหนีเอาตัวรอด แล้วคนร้ายกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้ามา กวาดทองรูปพรรณที่แขวนไว้ในตู้โชว์ ระหว่างนั้นนายวีระพงษ์ กลิ่นชู อายุ 35 ปี หลานชายเจ้าของร้านทองอยู่บ้านติดกันเห็นเหตุการณ์รีบคว้าปืนพก 9 มม. เข้ามากระหน่ำยิงใส่ 1 ใน 2 คนร้ายเข้าบริเวณลำตัว 7 นัดซ้อน จนคนร้ายมีอาการสะดุ้งเซถลาแต่กระสุนไม่เข้า คาดว่าคนร้ายน่าจะใส่เสื้อเกราะ และคนร้ายใช้ปืนลูกซองยิงสวน 1 นัด แต่นาย วีระพงษ์หลบทันกระสุนพลาดแป้าไปอย่างหวุดหวิด

จากนั้นคนร้ายช่วยกันเก็บกวาดทองรูปพรรณจำนวน 3 ถาด น้ำหนักรวม 250 บาท มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาทเศษ ใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมาแล้ววิ่งออกไปที่หน้าร้าน ใช้ปืนคาร์บินยิงขึ้นฟ้า 1 นัดเพื่อข่มขู่ไม่ให้ใครติดตามแล้วขึ้นรถ จยย.ที่สตาร์ตเครื่องทิ้งไว้ขี่หลบหนีออกไปทางถนนเพชรเกษมอย่าง รวดเร็วมุ่งหน้าไปทาง ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย

ต่อมา พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรายงานเหตุการณ์จี้ร้านทองที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ฉัตรชัย เรียนเมฆ รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทับสะแก ออกติดตามไล่ล่าพร้อมวิทยุสกัดจับคนร้าย ล่าสุดยังไม่พบวี่แววคนร้ายทั้งคู่แต่อย่างใด อย่างไร ก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายแล้ว.

www.dailyworldtoday.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม