วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รวบตัวผู้ต้องหา ฆ่าสาวฝรั่ง ได้แล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 มิ.ย. นายเมธี ตันมานะตระกูล ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจโรงแรมไทยภาคใต้ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุบัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วน จ.ภูเก็ต พร้อมคณะเข้าพบนายตรี อัครเดชา ผวจ.ที่ห้องทำงาน ศาลากลางจังหวัด เพื่อหารือเรื่องมาตรการการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของนักท่องเที่ยว หลังเหตุการณ์ 2 คนร้าย ใช้มีดชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลีย เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน บริเวณถนนกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยนายตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ส่วนรายละเอียดคงต้องรอรายงานอีกครั้ง ส่วนการดูแลความปลอดภัยทั่วๆไปในพื้นที่ ยังมีปัญหาค่อนข้างมาก เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว กำลังเจ้าหน้าที่ในจังหวัด ทำได้เพียงระดับหนึ่ง แต่ได้รับการตอบรับจากภาครัฐแล้ว โดยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมที่กรุงเทพแล้วครั้งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่จ.ภูเก็ต เป็นกำลังหลักในการดูแลความปลอดภัย ส่วนกำลังเสริมจะมาจากส่วนกลาง เพราะฉะนั้นเชื่อมั่นว่า การแก้ปัญหาในเรื่องเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวก็ดี เรื่องความปลอดภัยก็ดี จะได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ส่วนนายสมบูรณ์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบว่า นักท่องเที่ยวออสเตรเลียมาเที่ยวภูเก็ตมีจำนวนมาก อันดับ 1 เป็นเวลานาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับการสอบถามจากเอเย่นต์ทัวร์ในออสเตรเลียจำนวนมาก รวมถึงมาตรการที่จะต้องระวังไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ต้องยอมรับว่ากระทบกระเทือนกับภาพพจน์การท่องเที่ยวเราอย่างรุนแรง สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น แบ่งเป็น 2 ระยะคือ ระยะแรกเจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัดจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อลดแรงกดดันและสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของตำรวจ ส่วนระยะที่สอง เป็นเรื่องของการสร้างมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งถึงเวลาแล้วว่าทุกฝ่ายทุกภาคส่วนน่าจะมีการประชุมร่วมกันเป็นประจำ เพื่อวางมาตรการในการป้องกัน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องชีวิต หรือทรัพย์สิน แต่เป็นทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว เพราะปัญหาเกิดขึ้นทุกวันตลอดเวลา ฉะนั้นการประชุมพูดคุยมากขึ้นจะทำให้การแก้ปัญหาลุล่วงได้เร็วขึ้น


นายไพบูลย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่รัฐบาลส่วนกลางเห็นความสำคัญของกล้องวงจรปิด ซีซีทีวี ต้องให้งบประมาณสนับสนุนจังหวัด เพราะงบท้องถิ่นมีไม่มากนัก เข้าใจว่าการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วเกาะภูเก็ต จะให้ครอบคลุมจริงๆ ต้องติดประมาณ 10,000 ตัว ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท จึงฝากรัฐบาลช่วยพิจารณาด้วย หรือจะให้สตช.เข้ามาดำเนินการก็น่าจะเป็นเรื่องดี ส่วนการติดตั้งกล้องวงจรปิดในส่วนของ อบจ.มีการติดตั้งประมาณ 250 ตัว แล้วยังมีส่วนของอบต.เทศบาลต่างๆ อีก 1,000 ตัว ก็ไม่เพียงพอ ขณะที่ต่างประเทศเมืองสำคัญๆ มีเป็นล้านตัว อยากให้รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญและทำโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดูแลรักษาคุณภาพกล้องด้วย เพราะกล้องประเภทนี้เป็นกล้องค่อนข้างละเอียดอ่อน จึงอยากให้ดูแลทั้งหมดเป็นระบบ ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมสามารถจับกุมตัวนายสุรินทร์ ทัศทอง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 2 ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแผ้ว จ.สมุทรสาคร คนร้ายที่ขับขี่รถจยย.ก่อเหตุ ได้ที่บ้านพักในจ.สมุทรสาคร และจับกุมตัวนายสุรศักดิ์ หรือบอย สุวรรณโชติ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ขณะกบดานอยู่ในจ.ชุมพร ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่จ.ภูเก็ต สำหรับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นผลมาจากคำให้การของพยานปากเอก ซึ่งรู้จักคนร้าย ประกอบกับภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ที่นำมามอบให้เป็นภาพก่อนเกิดเหตุขณะทั้ง 2 เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังสอบปากคำเสร็จจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ


ส่วนที่สโมสรตำรวจ บางเขน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้แล้ว คือนายสุรินทร์ สามารถจับกุมได้ที่จ.สมุทรสาคร เมื่อคืนวันที่ 24 มิ.ย. ส่วนนายสุรศักดิ์ มือมีดถูกจับเมื่อเช้าวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่บนเขา บริเวณ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมทั้งยึดของกลางเป็นเสื้อผ้าชุดที่สวมใสขณะก่อเหตุได้ ซึ่งยืนยันจากกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตามหลังตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยถูกจับคดียาเสพติด ทั้งนี้ จะเดินทางลงไปสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมตรวจสอบปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจ.ภูเก็ต เพราะตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ชื่อเสียงประเทศเสียหายอย่างมาก โดยจะเรียกประชุม บก.ภ.จ.ภูเก็ตต่อไป

ต่อมาเวลา 20.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และคณะเดินทางมาเป็นประโนประชุมนายตำรวจเพื่อรับทราบความคืบหน้าคดีการจับกุมคนร้าย โดยมีพล.ต.ต.ชนสิษฎ์ บรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพประมาณ 15 นาที ก่อนทำการประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงแล้วเสร็จ โดยผบ.ตร.ออกมาเปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองในคดีนี้มีหลักฐานชัดเจน เป็นเสื้อผ้าชุดเดียวกันกับชุดที่คนร้ายสวมในวันเกิดเหตุและปลอกมีด รวมถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์คือกล้องซีทีวีหน้าโรงแรมที่เกิดเหตุขณะคนร้ายลงมือทุกขั้นตอน รวมภาพวงจรปิดตามคำให้การของพยานปากสำคัญ ที่ระบุว่าทั้งสองมานั่งดื่มสุรากันแต่พอคิดเงินแล้วเงินไม่พอจ่ายขาดประมาณ 300 บาท หนึ่งในสองคนร้ายบอกว่าจะไปเอาเงินมาจ่ายให้ แล้วออกจากร้านไป จนมาพบในภาพข่าว จึงแน่ใจว่าเป็นคนร้ายทั้งสอง เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบพร้อมภาพวงจรปิดในร้านที่สามารถเห็นผู้ต้องได้ชัดเจน อีกทั้งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพสอดคล้องกัน ส่วนมีดของกลางคนร้ายอ้างว่าโยนทิ้งไปหลังก่อนเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างค้นหา ซึ่งทางพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.จะเดินทางมาสอบสวนเพิ่มเติม

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า รู้สึกพอใจกับการทำงานของตำรวจที่ทุ่มเทจนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ในที่สุด หลังจากนี้คงต้องมีการประชุมหารือถึงมาตรการในการป้องกันและดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต สมุย หรือพัทยา รวมถึงเรื่องอื่นๆที่รัฐบาลเป็นห่วง คือเรื่องแท็กซี่ป้ายดำ เรื่องเจ็ตสกี ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งต้องมีมาตรการในการแก้ไขโดยความร่วมมือกับส่วนราชการอื่นด้วย เช่นกรมขนส่ง กรมเจ้าท่าฯ เรื่องนี้รองนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้มอบหมายให้ ทางท่านพล.ต.อ.ปานศิริ และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เข้ามาดูแลและคงต้องมีการเรียกประชุมผู้ประกอบ เพื่อวางมาตรการในการที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในเรื่องการมาเที่ยวเมืองไทยแล้วไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ถูกรังแกจากแก๊งต่างๆ โดยจะดำเนินจากขั้นเบาสุดถึงขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ จากนั้นผบ.ตร.ได้เดินทางไปตรวจความเรียบร้อยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจ.ภูเก็ต เพื่อดึงความมั่นใจของนักท่องเที่ยวกลับมา ส่วนตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่นำตัวไปขังไว้ที่สภ.ถลาง ก่อนจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม