วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เพลิงไหม้ โรงเรียนกวดวิชา เหตุอาจเกิดไฟลัดวงจร

เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 24 มิ.ย.2555 พ.ต.อ สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง อ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนกวดวิชา" ครูแจ๋ว" เลขที่99 / 101 ถ.มนัส ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ของนางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ อายุ 58 ปี ขณะเกิดเหตุนักเรียนกว่า 150 คน กำลังเรียนพิเศษอยู่ในโรงเรียน จึงรีบรุดไปตรวจสอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครนครราชสีมา ต้องระดมรถฉีดน้ำ 10 คัน เข้าระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้

ในที่เกิดเหตุพบต้นเพลิงอยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคารก่อนที่จะมีควันพวยพุ่งขึ้นไปบนชั้น 3 และชั้น 4 ขณะเกิดเหตุมีนักเรียนอายุระหว่าง 11 - 14 ปี รวม 27 คน กำลังเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์อยู่บนชั้น 4 ของตัวอาคาร ไม่สามารถหนีลงมาชั้นล่างได้ นายฐาปะนันท์ สิงห์เจริญกิจ บุตรชายนางพนัชกร เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาเป็นครูสอนพิเศษ จึงต้อนนักเรียนทั้งหมดขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าของอาคาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะใช้รถกู้ภัยฉุกเฉินส่งบันไดขึ้นไปรับเด็กนักเรียนที่ติดอยู่บนตัวอาคารทั้งหมดลงมาอย่างปลอดภัย

ส่วนเด็กนักเรียนที่ติดอยู่บนอาคาร มีอาการสำลักควัน แสนร้อนตาจมูก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำตัวเด็กนักเรียนทั้งหมดกระจายส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลใกล้เคียงอีกหลายแห่ง ล่าสุดอาการของเด็กนักเรียนทั้งหมดปลอดภัยแล้ว ขณะที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ ระหว่างเกิดเหตุเรียนอยู่ชั้น 1 ของอาคารจึงหนีออกมาจากตัวอาคารได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทุบกระจกบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคารเพื่อเข้าไปดับไฟที่ต้นเพลิง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ และไม่ลุกลามไปยังอาคารข้างเคียง ส่วนความเสียหายกำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจ เบื้องต้นประเมินคาดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

ระหว่างเกิดเหตุ นายสกลสฤษดิ์ บุญประดิษฐ์ รองผวจ.นครราชสีมาและพล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.นครราชสีมา ได้รุดมายังที่เกิดเหตุเเละอำนวยการช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ติดอยู่ในอาคารอย่างใกล้ชิด

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ นางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชา"ครูแจ๋ว" ระบุว่า เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร เกิดลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงทำให้ไฟลุกลามขึ้น เมื่อทราบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีการโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้ระงับเหตุทันที ทั้งนี้อาคารดังกล่าวก่อสร้างมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งตนเองได้เริ่มใช้อาคารเป็นโรงเรียนกวดวิชามานาน 7 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีการตรวจเช็กอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยต่างๆอยู่เป็นประจำ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ พร้อมยินดีที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกคำให้ ของนางพนัชกร ไว้เป็นหลักฐานและจะทำการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป

จากการสอบถามนายฐาปะนันท์ สิงห์เจริญกิจ อาจารย์สอนพิเศษของโรงเรียนกวดวิชา บุตรชายนางพนัชกร เล่าว่า ระหว่างที่กำลังสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ให้นักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่อายุระหว่าง 11 - 14 ปี รวม 27 คน อยู่บนชั้น 4 ของอาคาร เกิดมีกลุ่มควันพวยพุ่งเข้ามาในห้องเรียนจึงออกมาดู พบว่ากลุ่มควันหนาตาขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถที่จะนำนักเรียนลงมาจากอาคารได้ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครนครราชสีมาเพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมกับควบคุมเด็กทั้งหมดขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าของตัวอาคารคอยการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่

นายฐาปะนันท์ อ้างว่า ระหว่างรอความช่วยเหลือพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุก่อน แต่ให้ความช่วยเหลือล่าช้า ต้องรอนานกว่าครึ่งชั่วโมง เป็นเหตุให้ไฟและควันไฟเพิ่มความรุนแรงขึ้น จนต้องระดมรถดับเพลิงนับ 10 คันมาช่วยระงับเพลิงเกือบเป็นสาเหตุให้เด็กนักเรียนที่ติดอยู่ในอาคารต้องได้รับอันตราย

นายฑิฐิพร สิงห์เจริญกิจ บุตรชายนางพนัชกรอีกคน ให้การว่า ในขณะที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษา 4-6 เดินทางมาเรียนกวดวิชาในวันหยุดตามปกติ ซึ่งมีจำนวน 120 คน ได้เกิดเสียงดังคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่แผงควบคุมไฟฟ้าชั้น 2 จากนั้นได้มีประกายไฟแลบ พร้อมควันไฟพวยพุ่งอย่างรวดเร็ว สุดวิสัยที่ตน และ ครูผู้สอนจะสามารถดับเพลิงได้ทัน จึงรีบพาเด็กที่อยู่บนอาคาร หนีมาทางบันได แต่ควันไฟที่หนาแน่น ประกอบกับไฟฟ้าดับ ทำให้มองอะไรไม่เห็น จึงรีบเปิดหน้าต่างส่งเสียงร้องให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ โดยลงทางรถบันไดหนีไฟ โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างประเมิน

ด้าน พ.ต.อ สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง ฯ กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นจากการสอบปากคำพยาน น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามสาเหตุที่แน่ชัด ต้องรอให้ เจ้าหน้ากลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3มาตรวจสอบอีกครั้ง สำหรับอาคารดังกล่าว ได้ประสาน เจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลนคร นครราชสีมา สั่งระงับการใช้อาคารชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าปลอดภัย ส่วนเจ้าของอาคาร และ บรรดาครู จะเชิญตัวมาให้ปากคำภายหลัง

breakingnews.nationchannel.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม