วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

น่าที่ระลึก ไฟไหม้ตึกกวดวิชา เหตุไฟฟ้าลัดวงจร

ระทึกไฟไหม้ตึก 4 ชั้น โรงเรียนกวดวิชา “ครูแจ๋ว” กลางเมืองโคราช บรรดาเด็กๆ นับร้อยชีวิต แตกกระเจิงหนีตายกันชุลมุน ขณะที่เด็กอีกกลุ่มกำลังเรียนอยู่บน ชั้น 4 ไม่สามารถหนีลงมาได้ ต้องพากันหนีขึ้นไปบนดาดฟ้า รอเจ้าหน้าที่ดับเพลง นำรถกระเช้าส่งบันไดขึ้นไปรับลงมาได้อย่างปลอดภัย แต่มีอาการสำลักควัน แสบตา-จมูก 21 รายนำส่งโรงพยาบาลรักษาอาการป่วยจนปลอดภัย เผยเกิดเสียงดังสนั่นที่แผงวงจรไฟฟ้า ชั้น 2 ก่อนจะเกิดไฟลุกและลามไปทั่ว ตำรวจสั่งระงับใช้อาคารชั่วคราวรอวิศวกรมาตรวจสอบโครงสร้างของตึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 มิ.ย. ร.ต.อ.อุดร ขัดแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุเกิดเพลิงไหม้ที่ตึกของโรงเรียนกวดวิชาชื่อ “ครูแจ๋ว” เลขที่ 99/101 ถ.มนัส เขตเทศบาลนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรงข้ามกับอาคารราชสีมาเซ็นเตอร์ ส่งผลให้เด็กนักเรียนที่กำลังเรียนกวดวิชาอยู่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันจำนวนหนึ่ง และมีเด็กติดอยู่ในอาคารอีกกว่า 20 คน จึงได้ประสานรถดับเพลิง และรถกู้ภัยฉุกเฉินของเทศบาลนครนครราชสีมาเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 4 ชั้น จำนวน 2 คูหา เปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ที่จะเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) เข้าศึกษาต่อชั้น ม.4 โดยมีนางธนิชกร สิงห์เจริญกิจ อายุ 58 ปี หรือ “ครูแจ๋ว” เป็นเจ้าของ

ขณะเกิดเหตุกำลังทำการเรียนการสอนอยู่ ส่งผลให้ครูและเด็กนักเรียนกว่า 100 คน วิ่งหนีตายเอาตัวรอดออกมาจากจุดเกิดเหตุอย่างโกลาหล โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นที่ติดตั้งแผงควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารดังกล่าว โดยนักเรียนชั้น ป.6 ที่กำลังเรียนกวดวิชาอยู่บริเวณชั้น 4 จำนวน 27 คน ไม่สามารถวิ่งออกมาจากอาคารได้เนื่องจากต้นเพลิงลุกไหม้อยู่บริเวณชั้น 2 ด้านล่าง และมีกลุ่มควันจำนวนมากพุ่งขึ้นมาตามบันได ครูผู้สอนต้องพาเด็กนักเรียนวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน บางคนหายใจไม่ออก แสบร้อนตาและจมูก ทางเทศบาลนครนครราชสีมาได้นำรถกู้ภัยฉุกเฉินส่งบันไดขึ้นไปเร่งลำเลียงเด็กนักเรียนจากชั้นดาดฟ้าลงมาได้อย่างปลอดภัย และนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง โชคดีไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องทุบกระจกชั้น 2 เข้าไประดมฉีดน้ำดับเพลิงโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถดับเพลิงได้

จากการสอบถาม นายฐาปะนันท์ สิงห์เจริญกิจ อาจารย์สอนพิเศษของโรงเรียนกวดวิชา “ครูแจ๋ว” เล่าว่า ระหว่างที่กำลังสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ให้นักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่อายุระหว่าง 11-14 ปี รวม 27 คน อยู่บนชั้น 4 ของอาคาร เกิดมีกลุ่มควันพวยพุ่งเข้ามาในห้องเรียนจึงออกมาดู พบว่ากลุ่มควันหนาตาขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถที่จะนำนักเรียนลงมาจากอาคารได้ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครนครราชสีมาเพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมกับควบคุมเด็กทั้งหมดขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าของตัวอาคารคอยการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่

นายฐาปะนันท์ ระบุอีกว่า ระหว่างรอความช่วยเหลือพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุก่อน แต่ให้ความช่วยเหลือล่าช้า ต้องรอนานกว่าครึ่งชั่วโมง เป็นเหตุให้ไฟและควันไฟเพิ่มความรุนแรงขึ้น จนต้องระดมรถดับเพลิงนับ 10 คัน มาช่วยระงับเพลิง เกือบเป็นสาเหตุให้เด็กนักเรียนที่ติดอยู่ในอาคารต้องได้รับอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเกิดเหตุ นายสกลสฤษดิ์ บุญประดิษฐ์ รอง ผวจ.นครราชสีมา และ พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.นครราชสีมา ได้รุดมายังที่เกิดเหตุเเละอำนวยการช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ติดอยู่ในอาคารอย่างใกล้ชิด

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ นางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชา “ครูแจ๋ว” ระบุว่า เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร เกิดลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงทำให้ไฟลุกลามขึ้น เมื่อทราบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีการโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้ระงับเหตุทันที ทั้งนี้อาคารดังกล่าวก่อสร้างมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งตนได้เริ่มใช้อาคารเป็นโรงเรียนกวดวิชามานาน 7 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีการตรวจเช็ดอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยต่างๆ อยู่เป็นประจำ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ พร้อมยินดีที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกคำให้การของนางพนัชกร ไว้เป็นหลักฐาน และจะทำการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นจากการสอบปากคำพยานน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 มาตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท สำหรับอาคารดังกล่าวได้ประสานเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครนครราชสีมามาตรวจสอบโครงสร้างของตัวอาคาร ว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน พร้อมสั่งระงับการใช้อาคารชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าปลอดภัย สำหรับเจ้าของอาคาร และบรรดาครูจะเชิญตัวมาให้ปากคำภายหลัง สำหรับเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันขณะนี้มีอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้วแต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งเข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจำนวน 15 คน และโรงพยาบาลโคราชเมโมเรียล อ.เมือง จ.นครราชสีมา อีก 6 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจ้งผ่านทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาว่า จะเดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุและเยี่ยมอาการของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ในเวลา 17.30 น. วันเดียวกันนี้ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา

 

 

www.banmuang.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม