2 ส.ส.ภูเก็ตฉุนสื่อนอกตีข่าวเชิงลบ หลังแหม่มออสซี่ถูกฆ่า ร่อนหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เร่งแจงสื่อทั่วโลกเข้าใจ พร้อมสร้างความเชื่อมั่น-เสริมทัพ กำลังตำรวจเพิ่มอีก 600 นาย และเร่งคลอดโรงพักอีก 2 แห่งดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยวทั่วถึง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย จนถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จนกลายเป็นข่าวครึกโครมและโด่งดังไปทั่วโลก ส่งผลให้เกาะภูเก็ตได้รับผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือ 2 ฉบับส่งไปยังนายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังสื่อต่างประเทศนำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเชิงลบผ่านทางเว็บไซต์ จนสร้างความเสียหายให้กับ จ.ภูเก็ต เป็นอย่างมาก เช่น การมาเที่ยวภูเก็ตจะเต็มไปด้วยอันตราย นักเลง อันธพาลเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งการนำเสนอดังกล่าวสร้างความไม่เชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านลบ ให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อรายได้ของจังหวัดและประเทศอีกด้วย จึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นสร้างความน่าเชื่อถือ และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสื่อต่างประเทศ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของ จ.ภูเก็ต ให้คืนกลับมาโดยเร็ว
นายเรวัต กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีก 1 ฉบับ เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น ที่กำลังจะถึงในช่วงเดือน ต.ค.นี้ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งขอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ภูเก็ตอีก 600 นาย เนื่องจากกำลังพลไม่เพียงพอ เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน-นักท่องเที่ยว
ด้านนางอัญชลี วานิช เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 ภูเก็ต กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ในฐานะตนเองเป็นคนภูเก็ตและเป็นตัวแทนชาวภูเก็ตต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใด เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้วก็ตาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.จะต้องชี้แจงรายละเอียดและข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวในต่างประเทศที่มีความต้องการจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และจะต้องมีการวางแผนในระยะยาวในการสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยว่า มีมาตรการอย่างไร
“กรณีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ รวมถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆ นั้น ที่ผ่านมาได้มีการร้องขอให้เพิ่มกำลังมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะในการจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ตามรายหัวประชากรในทะเบียนราษฎร ซึ่งภูเก็ตมีเพียงกว่า 3.2 แสนคนเท่านั้น ขณะที่มีประชากรแฝง แรงงานต่างด้าวและนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ภารกิจของเจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้นและไม่ทั่วถึง จึงอยากให้มีการเปลี่ยนวิธีการในการจัดสรรเจ้าหน้าที่ลงมาทำงานให้เหมาะสม กับสภาพของพื้นที่ ส่วนกรณีที่มีการขอเพิ่มสถานีตำรวจภูธรอีก 2 แห่ง คือ สภ.กะรน กำกับดูแลพื้นที่ ต.กะรน ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเช่นกัน และ สภ.วิชิต กำกับดูแล ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตนั้น ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ไว้แล้ว เหลือเพียงการอนุมัติเท่านั้น และอยากเรียกร้องว่าหากจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเพิ่มขอให้เป็นผู้ที่มีฝีมือและทำงานจริงๆ ไม่ใช่มารอ เพื่อเปลี่ยนผ่านในตำแหน่งต่างๆ เพราะขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาอาชญากรรมเท่านั้น ยังมีนานาปัญหาอีกมาก เช่น มาเฟีย-แท็กซี่ป้ายดำ ที่คอยเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว” นางอัญชลีกล่าวย้ำ
www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น