องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ประณามซีเรียที่ยิงเครื่องบินขับไล่ของตุรกีตกว่า เป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ และขอให้ดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก
นายอันเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต้ เป็นผู้แถลงมติดังกล่าวหลังการประชุมเอกอัครราชทูต 28 ชาติของนาโต้ ที่กรุงบรัสเซลส์ ตามที่รัฐบาลตุรกีร้องขอให้จัดประชุมฉุกเฉินขึ้น จากการที่ตุรกีเป็นหนึ่งในชาติสมาชิกนาโต้
แถลงการณ์ระบุว่า นาโต้ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้นี้ และพันธมิตรนาโต้ขอแสดงความสนับสนุนและเป็นหนึ่งเดียวกับตุรกี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างว่าทางการซีเรียไม่ใส่ใจต่อบรรทัดฐานสากล สันติภาพ ความมั่นคง และชีวิตมนุษย์ นาโต้จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและด้วยความกังวลอย่างยิ่ง
นาโต้ไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะนำไปสู่การดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ตุรกีระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกร้องให้นาโต้ดำเนินมาตรการใดๆ
คำร้องของตุรกีที่ให้นาโต้จัดประชุมฉุกเฉินครั้งนี้นับเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ 63 ปีของนาโต้ ที่ชาติสมาชิกยืนคำร้องเช่นนี้ในกรณีที่เห็นว่าประเทศของตนถูกคุกคามด้านความมั่นคง และการที่ตุรกีเลือกยื่นคำร้องโดยยึดมาตราที่ 4 ของกฎบัตรนาโต้ ไม่ใช่มาตราที่ 5 ซึ่งหมายถึงการขอให้นาโต้สนับสนุนด้านกำลังทหาร แสดงว่าขณะนี้ตุรกีต้องการเพียง “เตือน” เพื่อนบ้านที่เคยมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะไม่ต้องการให้ข้อพิพาทครั้งนี้ลุกลาม
ขณะที่นายราสมุสเซนบอกว่า ในที่ประชุมนาโต้ไม่มีการพูดถึงมาตราที่ 5 และเขาเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ลุกลาม นอกจากนี้ยังหวังว่าซีเรียจะพยายามอย่างจริงจังที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ด้านนายกรัฐมนตรีเรเจพ เทย์ยิพ เออร์โดกัน ของตุรกี เตือนซีเรียไม่ให้สร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ โดยกล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางทหารจากพรมแดนซีเรียที่จะเข้าใกล้ตุรกี ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและอันตราย จะถูกประเมินว่าเป็นภัยคุกคามทางทหาร และจะถูกตอบโต้ด้วยมาตรการทางทหารเช่นเดียวกัน
ตุรกีเคยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับซีเรียก่อนที่ชาวซีเรียจะลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แต่หลังจากที่นายอัสซาดใช้กำลังปราบปรามพลเรือนจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน ในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา นายเออร์โดกันได้ประณามนายอัสซาดหลังจากเรียกร้องให้เขายุติปฏิบัติการรุนแรงไม่เป็นผล และขณะนี้ตุรกีได้ให้ที่พักพิงแก่กองกำลังฝ่ายกบฏซีเรียเสรี และยังให้ที่ลี้ภัยแก่ชาวซีเรีย 32,000 คน ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศที่ติดกับซีเรีย หรือห่างจากจุดที่เครื่องบินตุรกีถูกยิงตกราว 30 กิโลเมตร ขณะที่ตุรกีปฏิเสธว่าไม่ได้จัดส่งอาวุธให้ฝ่ายกบฏในซีเรีย
มีคำถามว่า การที่นาโต้สนับสนุนตุรกีครั้งนี้จะส่งผลให้นาโต้ใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียเหมือนในกรณีลิเบียหรือไม่ คำตอบในขณะนี้คือคงไม่ใช่ เพราะนาโต้ตระหนักดีว่าซีเรียเผชิญสงครามภายในที่รุนแรงอยู่แล้ว จึงไม่ต้องการให้เกิดสนามรบแห่งใหม่ขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของตะวันออกกลางทั้งหมด
ที่มา หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 13 ฉบับที่ 3323 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555 คอลัมน์ โลกต่างมุมมอง โดย คณาภพ ทองมั่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น