วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อีกครั้ง สี่ล้อแดงหาดป่าตอง ทำร้ายนักท่องเที่ยวดูไบหัวแตก

งามหน้าไม่เลิก สี่ล้อเล็กหาดป่าตอง ภูเก็ต ทุบหัวนักท่องเที่ยวดูไบแตกเลือดอาบ ด้านพ่อเมืองภูเก็ตระดมมันสมองแก้ปัญหาท่องเที่ยว หลังถูกเพื่อนบ้านโจมตีไม่ปลอดภัย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ตกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดเข้าร่วม เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังเกิดเหตุคนร้ายแทงนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า ได้ให้มีการเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการนำเสนอปัญหาการท่องเที่ยวของจังหวัด ทั้งนี้ได้เน้นย้ำกรณีรัฐบาลให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทางจังหวัดจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมหารือถึงปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยว ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้ประชุมมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว “อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแท็กซี่ป้ายดำ ปัญหาเจ็ตสกี รวมไปถึงปัญหาการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ปัญหาค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรม เป็นต้น ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมานานแล้ว และหน่วยงานที่รับผิดชอบรับทราบปัญหามาโดยตลอด ขณะที่ภาคเอกชนมองว่าปัญหาการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เป็นเพราะหน่วยงานราชการไม่ได้จริงจังกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเสนอให้มีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มให้ครอบคลุมจุดเสี่ยงต่างๆ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ในการหาผู้กระทำผิดภายหลังเกิดเหตุ ซึ่งจังหวัดได้นำเสนอไปยังส่วนกลาง และได้รับการตอบรับโครงการดังกล่าวแล้วเช่นกัน” ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า หากเป็นไปได้ อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสำรวจจุดเสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ เพื่อที่จะได้ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุม ซึ่งปัญหาต่างๆใน จ.ภูเก็ต เกิดขึ้นได้ตลอด ขณะเดียวกันปัญหานักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียถูกฆ่าตายยังไม่ทันจะจางหายไป พบปัญหาคนขับรถสี่ล้อเล็กรับจ้างในหาดป่าตอง อ.กะทู้ ใช้วิทยุสื่อสารทุบศีรษะนักท่องเที่ยวชาวดูไบแตกเลือดอาบอีก เมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัญหากับนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันในการดูแลนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ขณะที่นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียถูกชิงทรัพย์และถูกแทงเสียชีวิตนั้น ประเทศสิงคโปร์ได้พยายามที่จะนำเสนอข่าวว่าเกาะภูเก็ตเป็นเมืองที่ไม่ปลอดภัย เต็มไปด้วยอาชญากรรม ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตเป็นอย่างมาก ปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะ จ.ภูเก็ต มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ น่าที่จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้พอกับจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยวในการ ป้องกัน-ป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรมขึ้น รวมทั้งจะต้องตีกรอบบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด นายเมธี ตันมานะตระกูล ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้กล่าวว่า การวิ่งราวทรัพย์เกิดขึ้นทุกที่ในแหล่งท่องเที่ยว เมื่อเกิดขึ้นแล้วโอกาสที่ผู้เสียหายจะกลับมาชี้ตัวผู้ต้องหา เป็นไปไม่ได้ ทำให้ผู้ต้องหารู้ว่า 80% เหตุที่เกิดขึ้นไม่สามารถเอาผิดได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ อยากจะให้นักท่องเที่ยวทำเป็นหนังสือมอบอำนาจให้ทางโรงแรมที่พักเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินคดี ซึ่งจุดนี้จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉย มีการติดตามคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายนายสรายุทธ มัลลัม กรรมการสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต กล่าวย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตนั้น เกิดจากหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแก้ ปัญหาเท่าที่ควร ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหัวหน้าส่วนราชการต้องการที่จะมารับราชการที่ จ.ภูเก็ตกันมาก แต่เมื่อมาแล้วกลับไม่ได้ทำหน้าที่อย่างจริงจัง ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอยากจะมาอยู่ที่ จ.ภูเก็ตกันเพื่ออะไร และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย ยกตัวอย่างตามชายหาดต่างๆ มีชาวต่างชาติตั้งตัวเป็นมาเฟียแล้วเที่ยวประกาศกับคนของประเทศตัวเองว่า สามารถเคลียร์เรื่องต่างๆ กับทุกหน่วยงาน เคลียร์กับตำรวจได้ ซึ่งก็เป็นจริง คนกลุ่มนี้ไม่กลัวตำรวจ ไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมืองของบ้านเรา เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะไม่ลงบันทึกประจำวัน ได้แต่ตักเตือน เพราะได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงสื่อมวลชนต่างชาติที่พยายามจะนำเสนอข่าวในทางลบกับการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต.

www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม