วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เสธ.ทร. แจงข่าวเข้าใจผิด ยันสหรัฐแค่เตรียมของเข้าไทย

พล.ร.อ.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ เสนาธิการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้กองทัพเรือชี้แจงการขนย้ายยุทโธปกรณ์ของนาซ่าเข้าพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาว่า อาจจะมีการเข้าใจผิดในบางประเด็น ซึ่งจากการตรวจสอบจากเว็บไซต์ที่เป็นข่าว เพียงแต่บอกว่าอุปกรณ์ได้เตรียมการจัดส่งเข้ามาในประเทศไทย โดยออกมาจากสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้บอกว่า มาถึงประเทศไทยแล้ว กำหนดการดังกล่าวเป็นคล้ายๆโน๊ตย่อสั้นๆที่เขียนว่า ARC (Ames Research Center) มายังประเทศไทย ถ้าจะดูตามเว็บไซค์ในเดือน ส.ค. จะเขียนว่า อู่ตะเภา ประเทศไทย ต้องดูรายละเอียดอย่าดูเฉพาะบางตอน ส่วนกำหนดระยะเวลาที่จะมาถึงประเทศไทยไม่ทราบ เพราะเป็นอุปกรณ์ และไม่ได้แจ้งว่าจะมาช่องทางไหน อาจจะเป็นท่าเรือคลองเตย หรือแหลมฉบัง

"ปกติเครื่องบินทุกชนิดที่แจ้งมา จะบอกรายละเอียดว่าจะบินจากไหน ไปไหน มาทำอะไร ถ้าเราสงสัยก็ถามได้ ปกติจะไม่ล้ำเส้นในเรื่องเหล่านี้ เหมือนกับเราเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องขออนุญาต ส่วนการเตรียมพื้นที่รองรับอุปกรณ์ เราไม่ได้ดำเนินการใดๆต้องรอรัฐบาลไฟเขียว เราจะไม่ทำอะไรเกินขอบเขต ส่วนจะมีการตรวจสอบยุทโธปกรณ์ที่จัดส่งมาหรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นข้อตกลงกัน เพราะเป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และเป็นผลประโยชย์ของมนุษยชาติ ซึ่งหน่วยงานทางพลเรือนจะมีการตรวจสอบอุปกรณ์ว่าใช้ทางด้านนี้หรือไม่ หากรัฐบาลไฟเขียว ทางกองทัพไทยเตรียมตั้งคณะกรรมการ โดยมีเจ้ากรมยุทธการทหาร กองทัพไทย เป็นประธาน และเจ้ากรมยุทธการของเหล่าทัพ เป็นกรรมการ ตรวจสอบ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ซึ่งทางทหารเมื่อเห็นอุปกรณ์จะรู้ว่าชิ้นไหนเป็นอุปกรณ์ทางทหารหรือไม่ ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ผิดปกติก็ขอตรวจสอบได้ เขาจะอธิบายให้ฟัง อย่างกรณีเครื่องบินที่สงสัยกัน ถ้าเป็นเครื่องบินทางพลเรือนจะมีสีขาว เหมือนกับทางสภากาชาดไทย เพื่อเปิดเผยตัวเอง แต่เครื่องบินจารกรรมจะทาสีดำ สามารถสังเกตได้ สำหรับเครื่องบิน ER2 มีใช้ทั่วโลกประมาณ 20 รุ่นและมีการพัฒนาแตกแขนงมาก เพราะมีคุณสมบัติบินได้สูงก็เหมาะสมกับการตรวจสภาพอากาศ บินร่อนได้นาน" เสธ.ทร.กล่าว

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เรื่องนี้กองทัพบกไม่ได้เพิกเฉย ทันทีที่ได้รับข้อมูล กองทัพบกได้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามขอบเขตที่รับผิดชอบทันที โดยกรณีการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาของสหรัฐฯกับทางรัฐบาลไทยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยในระดับภูมิภาคและเพื่อภารกิจในการสำรวจภูมิอากาศ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาคมในภูมิภาคนี้ ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมประชุมด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางถึงผลกระทบ ข้อควรระวังหรือปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

"ในที่ประชุมเห็นตรงกัน 1.ให้รัฐบาลตั้งคณะทำงานมาศึกษาในรายละเอียดของการดำเนินการทั้งสองภารกิจของสหรัฐฯ 2.คณะทำงานจะพิจารณาจัดทำร่างข้อตกลงร่วม ว่าต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง 3.ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนและนานาชาติรับทราบ เพื่อมิให้เกิดการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน 4.ในการปฏิบัติการของสองภารกิจจะต้องมีเจ้าหน้าที่ไทยร่วมทำงานด้วย เช่น นักบิน นักวิชาการ และนักวิทยาศาสตร์ โดยต้องให้คณะทำงานพิจารณาในรายละเอียดเพือทำข้อตกลง ก่อนที่จะมีการอนุมัติผ่านตามกระบวนการตามขั้นตอน" รองโฆษกทบ.กล่าว

breakingnews.nationchannel.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม