ภูเก็ตนำร่องปรับแผนการรักษาความปลอดภัยชีวิตนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ ชงงบติดกล้องซีซีทีวีมาตรฐานสูง หลังเกิดเหตุฆาตกรรมแหม่มชาวออสซี่ชิงทรัพย์ ด้านสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตวอนรัฐบาลต้องเอาจริง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 25 มิ.ย.นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวถึงเหตุการณ์ 2 คนร้ายก่อเหตุแทงนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ว่า นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่ประสบเหตุในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วๆ ไปที่เดินทางเข้ามายัง จ.ภูเก็ต หรืออันดามัน เพื่อพักผ่อนเท่านั้น แต่กลับเป็นตัวแทนบริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่จากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลียและเป็นลูกค้ารายใหญ่ของประเทศไทยที่ส่งเจ้าหน้าที่จาก 10 สาขา มาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พังงาและกระบี่ แต่กลับมาเกิดเหตุร้ายที่ไม่น่าเกิดขึ้นเสียก่อน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และภาพพจน์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยอย่างแน่นอน
“ขณะนี้สื่อต่างประเทศจากทั่วโลกลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนพูดถึงเรื่องความปลอดภัย กรณีถ้าจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ตว่า ปลอดภัยเพียงใด ซึ่งหลายๆ ประเทศเริ่มมองในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันแหล่งท่องเที่ยวของเพื่อนบ้านมีความปลอดภัยมากกว่าบ้านเรา จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะทำให้ภาพลักษณ์-ภาพพจน์ของเมืองท่องเที่ยว อย่างเกาะภูเก็ตต้องเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่า”
อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า เกาะภูเก็ตเป็นพื้นที่ที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศแต่ละปีอย่างมหาศาล แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวไม่ใช่จะมีเฉพาะเรื่องการทำร้ายร่างกาย ฉกชิงวิ่งราวทรัพย์เท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องการข่มขู่-เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้วย จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มากๆ โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 20 ล้านคน แต่ถ้าไม่ดูเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยวและการสร้างความเชื่อมั่นในชีวิต-ทรัพย์สิน การท่องเที่ยวก็จะเป็นไปไม่ได้ และไม่เป็นไปตามที่คาดหวังแน่นอน เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะต้องลงทุนเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลไปถึงประชาชนคนไทยด้วย โดยการสร้างความมั่นคงในความปลอดภัยนั้น ทำได้โดยการติดตั้งกล้องวงจรปิดระบบเดียวกันทั้งเกาะภูเก็ตและการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เชื่อว่าทำได้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ด้าน พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.8 กล่าวถึงมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศว่า เรื่องนี้ได้มีการกำชับมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งจริงๆ เรื่องการดูแลความปลอดภัยนั้นได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และนายกรัฐมนตรีเองได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการที่จะบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อกล้องซีซีทีวี เพื่อติดตั้งตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยจะต้องเป็นกล้องที่มีความเหมาะสม และมีคุณภาพที่ดีที่จะสามารถนำภาพกลับมาประกอบในการค้นหาติดตามจับกุมคนร้าย ที่ลงมือก่อเหตุได้ และล่าสุด ร.ต.อ.นายเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีได้มีการประชุมและเน้นย้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งหากเราทำกันอย่างจริงจังและต่อเนื่องจะส่งผลดีเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มนำร่องที่ จ.ภูเก็ตก่อน เพราะเป็นแหล่งทำรายได้เข้าประเทศในลำดับต้นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว
www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น