วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เขื่อนกระเสียว เขื่อนดินที่ยาวที่สุดอันอันดับสองของไทย

เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศไทยแต่ละครั้งที่นักท่องเที่ยวไปชมความงามของเขื่อน ส่วนใหญ่ไปเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ไปเก็บความงดงามของธรรมชาติ ไปศึกษาเรียนรู้ ถวิลหาอดีตในความทรงจำ แต่จะมีสักกี่คนไปเพื่อตอบคำถามในใจตัวเอง ว่ามีความตระหนัก มีจิตสำนึกในความรักชาติ รักแผ่นดิน ในการเก็บร่องรอยประวัติศาสตร์ของประเทศไทยแค่ไหน ดังนั้นการไปเขื่อนกระเสียวแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะไปแบบฉาบฉวย ผิวเผิน หรือไปมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งบรรยากาศเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

โดยเฉพาะร่องรอยที่แม้จะเก่าและนานแค่ไหน มันยิ่งตอกย้ำความสำนึกมากขึ้นว่า อยากให้คนไทยทุกคนโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้และเข้าใจความเป็นมาของประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น และที่เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง แห่งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การจดจำเพราะครั้งหนึ่งเมื่อ 37 ปีที่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯมาประทับ ณ พลับพลาที่ประทับ ที่สร้างขึ้นชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและภัยแล้ง ให้กับราษฎรของพระองค์ บริเวณเหนือเขื่อนกระเสียว เมื่อ 37 ปีที่แล้ว นับเป็นความปลื้มปีติแก่ชาวสุพรรณบุรีอย่างล้นพ้นในสมัยนั้น

นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรีเปิดเผยว่า ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี มีความสำนึกคุณแผ่นดินในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรปวงชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบมิได้ เมื่อครั้งใน วันที่ 25 กรกฎาคม 2518 หรือ เมื่อประมาณ 37 ปีที่ผ่านมา พระองค์พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จฯมาพระราชทานธงให้กับลูกเสือชาวบ้านในเขตอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และได้เสด็จฯมาประทับ ณ พลับพลา ที่สร้างขึ้นชั่วคราว ณ บริเวณเหนือเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง ในปัจจุบันเพื่อทรงงานการบริหารจัดการน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งซ้ำซาก ให้กับพื้นที่อำเภอสามชุก ดอนเจดีย์ อู่ทอง สองพี่น้องและบางปลาม้า ตลอดจนเขตติดต่อของอำเภอกำแพงแสน บางเลน นครชัยศรี และ สามพราน ของจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้พสกนิกรของพระองค์ยากจน ทุกข์ยากทำการเกษตรไม่ได้ผล วันนั้นพระองค์ได้ทรงงานการแก้ปัญหาความยากจนของพสกนิกรจากภัยแล้ง ภัยน้ำท่วม ตั้งแต่เวลาบ่ายสามโมงจนถึงหกโมงเย็นของวันดังกล่าว ช่วงระยะเวลาสามชั่วโมงเต็มแห่งประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าดังกล่าวนั้น นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยยิ่งนัก

นายวิศรุต กล่าวต่อว่า อดีตเมื่อ 37 ปีที่แล้ว พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลาดเอียงเก็บกักน้ำไม่อยู่ ช่วงฤดูฝนน้ำท่วมสูงไหลหลากอย่างรวดเร็ว ช่วงฤดูแล้งก็แห้งแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคทำการเกษตรไม่ได้ ส่งผลให้พสกนิกรของพระองค์ในพื้นที่ดังกล่าวทุกข์ยาก ยากจน เพราะขาดการบริหารจัดการน้ำที่ดีมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ทรงรอบรู้ภูมิประเทศไทยทุกตารางนิ้ว พระองค์ทรงมีพระราชดำริการแก้ไขปัญหาความยากจนของพสกนิกรกับปัญหาพื้นที่ภัยแล้ง ภัยน้ำท่วมซ้ำซาก ในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น พระองค์ทรงมีพระราชดำริแนวทางการบริหารจัดการน้ำ โดยการสร้างเขื่อนคันดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เพื่อควบคุมการระบายน้ำให้เป็นระบบในช่วงฤดูฝนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในพื้นที่ดังกล่าวทรงให้ปล่อยพันธุ์ปลาเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ให้กับพสกนิกร ทรงชี้แนวทางในอนาคตกับสถานที่กักเก็บน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าแก่พสกนิกรปวงชนชาวไทย

จากแนวพระราชดำริดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานได้น้อมรับพระราชดำริการสร้างเขื่อนกระเสียวซึ่งถือเป็นเขื่อนคันดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2523 เป็นพื้นที่แก้มลิงเก็บกักน้ำใช้ได้ 28,750 ไร่ กักเก็บน้ำได้สูงถึง 240 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของพสกนิกรได้อย่างสมบูรณ์แบบส่งผลให้พสกนิกรของพระองค์โดยเฉพาะชาวอำเภอด่านช้างและพื้นที่ใกล้เคียงดังกล่าวข้างต้นอยู่เย็นเป็นสุขภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ตราบเท่าทุกวันนี้ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน ชาวอำเภอด่านช้าง และจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันบริจาคทรัพย์สมทบทุนปรับภูมิทัศน์ สร้างพลับพลาที่ประทับของพระองค์ในบริเวณประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าดังกล่าว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทย คาดว่าการก่อสร้างพลับพลาที่ประทับดังกล่าวจะแล้วเสร็จในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 นี้

นับเป็นพลับพลาที่ประทับอันทรงคุณค่าและเปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพ ปัจจุบันจัดเป็นจุดถ่ายภาพ รับ–ส่ง ตะวันที่งดงามที่สุดของเขื่อนคันดินแห่งนี้ อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าควรแก่การจดจำเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทย.

www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม