วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สลด! โจรภูเก็ต แทง 2 ฝรั่ง เอเย่นต์ทัวร์

2 คนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์แหม่มสาวใหญ่ เจ้าของบริษัททัวร์ชาวออสเตรเลีย ดักลงมือ ขณะเหยื่อออกไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เดินทางกลับโรงแรมที่พักมากับเพื่อนอีกคน ขี่รถ จยย.เข้าไปกระชากกระเป๋าสะพาย เหยื่อฮึดสู้โดนแทงด้วยมีดสปาร์ตาเข้าอกซ้ายทะลุ ล้มทรุด ส่วนเพิื่อนโดนฟันต้นแขนซมซานไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรมช่วยหามส่งโรงพยาบาลแต่เหยื่อคมมีดรายแรกขาดใจตายไปก่อน ตำรวจเจ้าของพื้นที่และตำรวจท่องเที่ยวประสานระดมกำลัง ติดตามไล่ล่าคนร้ายสุดเหวี่ยง

โจรอาละวาดก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์แหม่มสาวใหญ่เจ้าของบริษัททัวร์ใช้มีดสปาร์ตาแทงอกซ้ายตัดขั้วหัวใจสุดอำมหิตรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. พ.ต.ท.บุญเลิศ อ่อนกลาง สารวัตรเวร สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวถูกแทงเสียชีวิตและบาดเจ็บบริเวณถนนกะตะน้อย ต.กะรน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รอง ผกก.ป. ร.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.ส.ทท.2 กก.5 จ.ภูเก็ต นำกำลังพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย รุดไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุเป็นถนนทางลงเขาใกล้กับโรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท พบนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรวจสอบพบเพียงกองเลือด ส่วนคนถูกแทงมี 2 ราย กระเสือกกระสนไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลและขาดใจตายไปก่อน 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.สมิธ มิเชล อลิชซาเบท อายุ 59 ปี ชาวออสเตรเลีย มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดสปาร์ตาเข้าอกซ้ายตัดขั้วหัวใจทะลุปอด 1 แผล นำศพส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนผู้บาดเจ็บอีกคนถูกนำส่งโรงพยาบาลศิริโรจน์ภูเก็ต ทราบชื่อ น.ส.ลินนี่ แทมมี่ ลี อายุ 45 ปี ถูกฟันด้วยมีดสปาร์ตาเข้าต้นแขนซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์

จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.สมิธ ผู้ตายและ น.ส.ลินนี่ คนเจ็บ ประกอบอาชีพเปิดบริษัททัวร์ที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย นำเพื่อนๆประมาณ 10 คนเดินทางมาดูสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเปิดตลาดนำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต เข้าพักที่โรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา กำหนดเดินทางกลับในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและเพื่อนๆชวนกันออกไปกินอาหารมื้อค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่นอกโรงแรม เสร็จแล้วเพื่อนๆแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน ส่วน น.ส.สมิธ และ น.ส.ลินนี่พากันเดินกลับโรงแรมที่พัก

ขณะเดินมาถึงที่เกิดเหตุใกล้จะถึงโรงแรมที่พักก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น จู่ๆมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปีขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน คนขี่สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อคอกลมแขนสั้น กางเกงยีนส์  ผมยาวประบ่า ไม่สวมหมวกกันน็อก ทำทีขี่รถเลยไปก่อนเลี้ยววกรถกลับมาตรงเข้ากระชากกระเป๋าสะพายของ น.ส.สมิธ ทันที ระหว่างนั้น น.ส.สมิธขัดขืนต่อสู้และร้องตะโกนเรียกให้คนช่วย คนร้ายเลยโมโหใช้มีดสปาร์ตาที่พกมาแทงเข้าหน้าอก น.ส.สมิธจนล้มทรุดกองกับพื้น แล้วคนร้ายยังใช้มีดฟันแขน น.ส.ลินนี่บาดเจ็บไปอีกคนแล้วบึ่งรถหนีมุ่งหน้าไปทางหาดกะรนอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ทรัพย์สินของเหยื่อติดมือไป

หลังจากคนร้ายทั้งสองพากันหลบหนีไปแล้ว น.ส.ลินนี่ที่ถูกคนร้ายฟันแขนบาดเจ็บช่วยประคองร่างอันโชกเลือดของ น.ส.สมิธ ที่ถูกแทงเข้าหน้าอกซ้ายอาการร่อแร่ไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรมกะตะธานีใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อให้ช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ น.ส.สมิธทนความเจ็บบาดแผลฉกรรจ์ไม่ไหวขาดใจตายไปก่อน ส่วน น.ส.ลินนี่คนเจ็บ ทางพนักงานโรงแรมช่วยนำส่งโรงพยาบาลศิริโรจน์ภูเก็ต แพทย์ได้เย็บบาดแผลถึง 24 เข็ม

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายคงจะเห็นเหยื่อสะพายกระเป๋ามีทรัพย์สินติดตัวเยอะจึงลงมือก่อเหตุเพียงต้องการแค่ชิงทรัพย์สินเท่านั้น แต่เหยื่อเกิดเสียดายทรัพย์สินและฮึดสู้เลยถูกคนร้ายใช้มีดแทงเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพยาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาเบาะแสคนร้าย ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของคนร้ายขณะขี่รถหลบหนีหลังก่อเหตุไว้ได้ จะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะลงมืออย่างอุกอาจเย้ยกฎหมายและเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน

ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน รอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง แถลงข่าวที่โรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.สมิธว่าจัดกำลัง 3 ชุดออกติดตามไล่ล่าคนร้าย ขณะนี้ยังจับกุมไม่ได้ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์กล่าวด้วยน้ำตาตลอเบ้าเสียงสั่นเครือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนขวัญและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ขอแสดงความเสียใจ ต่อชาวออสเตรเลียทุกคนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้ ขณะนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้สั่งการลงมาโดยกำชับให้เร่งติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็วและสั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ลงมาดูแลสำนวนคดี

ด้านนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ที่ผู้ตายเดินทางมาเข้าพักที่โรงแรม  กล่าวว่า  ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมทั้งกลุ่มเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ที่สำคัญกลุ่มผู้ตายและคนเจ็บเป็นเอเย่นต์บริษัททัวร์ของประเทศออสเตรเลีย มาสำรวจตลาดการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใน จ.ภูเก็ต ขณะนี้กลุ่มเพื่อนของผู้ตายทั้งหมดพากันเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมเดินทางกลับประเทศก่อนกำหนด เพราะตกใจกับเหตุการณ์ หลังจากนี้จะต้องติดตามความคืบหน้าของกรุ๊ปทัวร์กลุ่มนี้ หากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็จะให้การช่วยเหลือให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ ทางกงสุลออสเตรเลียพอใจกับการประสานงานของโรงแรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานฉับไว และย้ำว่าหากจับคนร้ายได้ จะให้ผู้เสียหายเดินทางกลับมาชี้ตัว และทางโรงแรมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุบริเวณถนนนอกโรงแรมก็ตาม เพราะถือว่าเป็นลูกค้าของโรงแรม

m.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม