การศึกษาโดยใช้เลเซอร์ช่วยอาจนำไปสู่ระบบการเตือนภัยที่สามารถเตือนให้เรือรู้ว่ามี"คลื่นยักษ์"กำลังคืบคลานเข้ามาที่เรือได้
งานวิจัยชิ้นนี้นำโดยศาสตราจารย์เนล อัคห์เมดิเยฟ แห่งวิทยาลัยวิจัยฟิสิกส์และวิศวกรรม มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสและสเปน และได้เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการ Physical Review Letters แล้ว
คลื่นยักษ์ มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษหลายชื่อคือ ฟรีกเวฟ (freak wave) โรกเวฟ (rogue wave) หรือ มอนสเตอร์เวฟ (monster wave) เป็นคลื่นผิวน้ำขนาดใหญ่ และฉับพลัน สามารถล่มเรือขนาดกลางถึงใหญ่ ในอดีตเชื่อกันว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าลือ แต่ในปัจจุบันได้มีการยืนยันว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติทางทะเลชนิดหนึ่ง แต่ก่อนนั้นมีเพียงเรื่องเล่าจากนักเดินเรือที่ได้ประสบกับคลื่นชนิดนี้เท่านั้น จนกระทั่งได้มีการยืนยันถึงการมีอยู่จริงของคลื่นประเภทนี้ และมีความเป็นไปได้สูงที่ คลื่นประเภทนี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เรือเดินสมุทรหายสาบสูญโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยอดีตเชื่อว่า คลื่นนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ศ.อัคห์เมดิเยฟเผยว่า งานของพวกเขาจะใช้เลเซอร์ในการจำลองฟรีกเวฟ หรือโรกเวฟเหล่านี้ และยังแสดงให้เห็นด้วยว่า คลื่นผิวน้ำเหล่านี้เกิดขึ้นได้บ่อยกว่าที่เราเคยคิดไว้
ฟรีกเวฟเป็นคลื่นที่สามารถเกิดขึ้นที่ใดก็ได้ มีความยาวเป็นร้อยๆเมตรและสามารถสูงกว่าคลื่นที่อยู่รอบๆได้ 2-3 เท่า
ในอดีต ฟรีกเวฟยังเป็นปริศนาสำหรับนักวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อปี 2001 ดาวเทียมก็สามารถจับภาพคลื่นยักษ์ที่มีขนาดสูงกว่า 25 เมตรได้มากกว่า 10 ครั้งในช่วง 3 สัปดาห์ของการเก็บข้อมูล
ขณะที่โรกเวฟนั้นได้มีการศึกษามาเมื่อสิบปีที่แล้ว และการศึกษาครั้งล่าสุดนี้ก็ได้เผยวิธีการที่อยู่เบื้องหลังการสร้างคลื่นเหล่านี้ในห้องวิจัยได้แล้ว
"ปัจจัยสำคัญของการเกิดเหตุการณ์สุดขั้นเหล่านี้คือการมีอยู่ของพลังงานหรือสิ่งกระตุ้นที่อยู่เบื้องหลังตัวระบบ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดจากธรรมชาติหรือในห้องปฏิบัติการวิจัย นี่เป็นคุณลักษณะพื้นฐานที่เรียกว่า ระบบ dissipative" ศ.อัคห์เมดิเยฟเผย
ในมหาสมุทรนั้น โรกเวฟสามารถเกิดขึ้นได้จากการสะสมพลังงานจากคลื่นเล็กๆ
ศ.อัคห์เมดิเยฟเผยว่า เลเซอร์แสงนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของระบบ dissipative และเหตุการณ์สุดขั้วที่คล้ายๆกัน ที่สามารถสร้างขึ้นได้ในระบบเลเซอร์ด้วยการจำลอง "กระบวนการความปั่นป่วน" ในทะเล
นักวิจัยได้ทดลองปรับความสูง ระยะเวลา ความยาว ของพัลส์เลเซอร์ วัดและบันทึกความสูงของพัลส์ที่ได้ โดยระบบเลเซอร์นี้พยายามจำลองการเกิดของโรกเวฟ
"สิ่งที่เราพบคือ เหตุการณ์สุดขั้วได้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เราเคยคิดไว้" ศ.อัคห์เมดิเยฟเผย
ศ.อัคห์เมดิเยฟเล่าว่า งานวิจัยชิ้นนี้ได้เผยแล้วว่า ปัจจัยอะไรบ้างที่จะบอกเราได้ว่าโรกเวฟกำลังก่อตัวขึ้น
หากเราสามารถสร้างระบบที่ตรวจจับ "ปัจจัย" เหล่านี้ ก็เป็นไปได้ที่ซักวันหนึ่งเราจะมีระบบเตือนภัยของเรือที่เตือนให้เรือทราบได้ว่ามีโรกเวฟเกิดขึ้นที่ใด
ปัจจุบัน ระบบนี้ใช้เพื่อการวิเคราะห์โรกเวฟเท่านั้น แต่ ศ.อัคห์ดิเมเยฟก็เชื่อว่า ในอนาคตเราสามารถใช้วิธีการศึกษาที่คล้ายๆกันนี้ไปทำความเข้าใจเหตุการณ์สุดขั้วอื่นๆอย่างไฟป่า น้ำท่วม และพายุไซโคลนได้
"เราพยายามจะขยายความรู้ของเราไปที่ระบบอื่นๆด้วย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น